7 เคล็ดลับขายดี สำหรับธุรกิจขายส่ง ที่เจ้าของกิจการควรรู้
ธุรกิจขายส่งหรือร้านค้าขายส่ง ถือว่าเป็นธุรกิจที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน หรือโรคระบาดโควิด-19 ที่คนทั่วโลกต้องเผชิญ ส่งผลให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิม ลูกค้าหลายคนเริ่มชินกับการซื้อขายออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิดความคาดหวังว่า การขายส่งก็ควรต้องปรับตัวและทำได้หลายรูปแบบแม้แต่ในโลกออนไลน์ อีกทั้งผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจขายส่งอยู่รอด สามารถสร้างรายได้ พร้อมทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการควรทำอย่างไร วันนี้เราจึงมี 7 เคล็ดลับขายดี สำหรับธุรกิจขายส่ง มาฝากเจ้าของกิจการทุกท่านค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ธุรกิจขายส่ง คืออะไร?
- ธุรกิจขายส่ง มีกระบวนการขายและการดำเนินงานอย่างไร?
- 7 เคล็ดลับขายดี สำหรับธุรกิจขายส่งในยุคปัจจุบัน
- สรุป
ธุรกิจขายส่ง คืออะไร?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า ธุรกิจขายส่ง คืออะไร? ธุรกิจขายส่ง คือ ธุรกิจที่รวบรวมสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างจากผู้ผลิต หรือในบางกรณีก็เป็นผู้ผลิตสินค้าเอง แล้วทำหน้าที่ขายสู่ท้องตลาดในราคาที่ถูกและคุ้มค่าเมื่อซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อร้านค้าที่ซื้อแล้วนำไปขายต่อ เพราะเมื่อซื้อในจำนวนมาก ราคาปลีกหรือราคาต่อชิ้นจะถูกลง เมื่อนำไปขายต่อก็จะได้กำไรที่มากขึ้นนั้นเอง ตัวอย่างธุรกิจขายส่งในไทย เช่น แมคโคร โฮมโปร หรือร้านขายส่งตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่เน้นขายของทีละจำนวนมาก ๆ ให้กับลูกค้า
ธุรกิจขายส่ง มีกระบวนการขายและการดำเนินงานอย่างไร?
สำหรับประบวนการขายสินค้าของธุรกิจขายส่ง ก็มักจะขายสินค้าที่ละมาก ๆ เป็นโหล เป็นแพ็ค หรือมากกว่านั้น ให้กับลูกค้าโดยตรง โดยไม่ผ่านคนกลาง ส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นการขายแบบ B2B (Business to Business) หรือขายให้กับบริษัทใหญ่ที่ไปกระจายสินค้าแบบปลีกอีกทีหนึ่ง หรือในบางกรณีก็สามารถขายให้กับลูกค้าทั่วไป แบบ B2C (Business to Customer) เช่น ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าไปตุนไว้ เพราะใช้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นประจำ ซื้อไปทีละเยอะ ๆ ทำให้ลูกค้าได้ราคาที่ถูกกว่า และไม่ต้องมาซื้อสินค้าหลาย ๆ รอบ ส่วนใหญ่ธุรกิจขายส่งมักจะมีฐานลูกค้าประจำของธุรกิจอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง หรือที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกันมานาน
7 เคล็ดลับขายดี สำหรับธุรกิจขายส่งในยุคปัจจุบัน
ถ้าเราสนใจทำธุรกิจขายส่ง หรือตอนนี้กำลังทำธุรกิจประเภทนี้อยู่ ควรทำอย่างไรบ้าง ถึงจะสร้างยอดขายและผลกำไรได้ท่ามกลางการแข่งขันทางการตลาดที่สูงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป วันนี้เราเลยมาแนะนำเคล็ดลับการขายสำหรับธุรกิจขายส่ง ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของคุณได้ยอดขายที่มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
1. สร้างประสบการณ์การซื้อครั้งแรกให้น่าประทับใจ
แม้ว่าธุรกิจขายส่งจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องอย่าลืมว่า มีคู่แข่งจำนวนมากมายที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกับเรา รายได้มักจะมากับลูกค้ารายเดิม ที่นิยมซื้อของทีละมาก ๆ เป็นประจำ ถ้าอยากสร้างยอดขาย และเพิ่มกำไร นอกจากจะต้องดึงดูดลูกค้าใหม่ให้ได้แล้ว เราต้องทำให้เกิดการซื้อซ้ำด้วย ซึ่งการสร้างประสบการณ์ซื้อในครั้งแรกให้ลูกค้าประทับใจ เป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง ลองนึกภาพดูว่า ถ้าสมมติเราเป็นลูกค้า เราอยากซื้อสินค้าที่ร้านไหน ระหว่างร้านที่ซื้อสะดวก หาของง่าย บริการเยี่ยม กับ ร้านที่มีขั้นตอนการซื้อยุ่งยาก หาของยาก แถมพนักงานพูดจาไม่ดีใส่เมื่อถามข้อมูลสินค้า ดังนั้น การสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดี เป็นเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มการซื้อซ้ำให้ร้านค้าของคุณได้
2. มีระบบสะสมแต้ม ให้ลูกค้าเกิดความภักดีและกลับมาซื้อซ้ำ
การทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำอีกครั้ง แค่สร้างความประทับใจอย่างเดียวอาจไม่ดึงดูดพอ ถ้าอยากเพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาอีก ต้องใช้กลยุทธ์ที่เป็นตัวกลางสามารถดึงลูกค้ากลับมาหาเราได้บ่อย ๆ นั่นก็คือ “ระบบสะสมแต้ม” นั่นเอง ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อสินค้า ก็สะสมแต้มให้ลูกค้าทุกครั้งตามเงื่อนไขที่ทางร้านกำหนด และเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าหรือสะสมแต้มได้ตามเงื่อนไข ก็มอบส่วนลดพิเศษ คูปองหรือของรางวัล เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้สิทธิพิเศษเหล่านั้น ซึ่ง Poinspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ก็เป็นวิธีหนึ่งของการทำ Loyalty Program ที่สามารถร้านค้าสามารถสร้างระบบสะสมแต้มได้ง่าย ๆ ด้วยเบอร์โทร ที่จะช่วยเพิ่มการซื้อซ้ำให้กับธุรกิจขายส่งได้
3. ทำราคาโปรโมชั่นตามช่วงเวลา ให้น่าดึงดูด เหมาะสม
ราคาสินค้าที่ถูกและคุ้มค่า ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้ตัดสินใจมาซื้อสินค้าที่ร้านของคุณ ถ้าตอนนี้ยอดขายเริ่มนิ่งคงเดิม หรือลดลง ลองเพิ่มกลยุทธ์ทำราคาโปรโมชั่นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งควรทำโปรโมชั่นตามช่วงเวลา เช่น โปรโมชั่นตามเทศกาล หรือโปรโมชั่นตามโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นลดรับซัมเมอร์ หรือลด 50% ฉลองร้านครบรอบ 5 ปี โปรโมชั่นที่ลดเยอะ และสอดคล้องกับสถานการณ์จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูด และเรียกลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่ร้านของเรามากยิ่งขึ้น
4. ทำเซ็ตสินค้า Bundle Deals
อีกปัญหาหนึ่งที่คนทำธุรกิจขายส่งน่าจะเจออยู่บ่อย ๆ คือ จะมีสินค้าบางกลุ่มที่ขายไม่ค่อยดี จนเกิดปัญหาสต็อกบวมหรือ Dead Stock ทั้ง ๆ ที่เป็นสินค้าที่มีประโยชน์และน่าสนใจในระดับหนึ่ง ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการทำโปรโมชั่นเซ็ทสินค้า หรือ Bundle Deals เช่น ซื้อสินค้า A จำนวน 4 โหล คู่กับสินค้า B อีก 2 โหล รับทันทีส่วนลด 20% หรือถ้ารู้สึกว่าการจับคู่สินค้าทำให้เกิดการซื้อที่ยากเกินไป ก็สามารถทำสินค้าเดี่ยว ๆ ได้ เช่น กระดาษทิชชู่แบรนด์ A ยอดขายไม่ค่อยดี คนมักจะซื้อไม่เกิน 2 แพ็คเท่านั้น ก็สามารถทำดีลพิเศษ ซื้อทิชชู่ แบรนด์ A จำนวน 5 แพ็ค รับส่วนลดทันที 10% เป็นต้น
5. อัปเดตรายการสินค้า ให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางต่างๆ
ธุรกิจจำเป็นต้องสื่อสารกับลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อรักษาลูกค้าให้อยู่กับเราไปอย่างยาวนาน วิธีที่จะช่วยให้เราไม่หายไปจากความสนใจของลูกค้า และทำให้ลูกค้ายังนึกถึงเราอยู่ตลอด ก็คือ การสื่อสารผ่านการอัปเดตรายการสินค้า ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ เช่น Social Media ของร้านค้า อีเมล หรือแม้แต่การทำ SMS Marketing การอัปเดตสินค้าจะช่วยบอกต่อข่าวสาร และสินค้าที่น่าสนใจในช่วงนี้ให้ลูกค้าได้ทราบ ถ้าสินค้าที่เรานำเสนอไป เป็นสินค้าที่ลูกค้ากำลังต้องการพอดี ก็ช่วยเพิ่มโอกาสการขายในขณะนั้นได้ และหากคิดในทางกลับกัน ถ้าเราไม่อัปเดตข้อมูลร้านค้าหรือรายการสินค้าเลย บางทีลูกค้าก็จะมองว่าร้านเราปิดไปแล้ว และลูกค้าไม่มีทางรู้เลยว่า ร้านเรามีสินค้าประเภทนี้อยู่ทั้ง ๆ ที่ร้านเรามี แทนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าเรา เขาอาจจะเดินไปหาร้านอื่นแทน ที่มีสินค้าประเภทเดียวกันกับเรา
6. ทำโฆษณาออนไลน์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น
ทุกวันนี้การแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างสูง การอาศัยการโปรโมตทางออฟไลน์อาจจะยังไม่พอ แต่ควรเพิ่มโอกาสการมองเห็นสินค้าของธุรกิจขายส่งของคุณผ่านการทำโฆษณาออนไลน์เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads หรือ Google Ads นอกจากจะเพิ่มการรับรู้ (Awareness) ให้กับร้านค้าและสินค้าของคุณแล้ว การทำโฆษณาออนไลน์ยังมีข้อดีตรงที่สามารถยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้นด้วย โดยเราสามารถกำหนดได้ว่า เราอยากให้โฆษณาของเราไปปรากฏแก่ลูกค้าที่มีลักษณะแบบไหน ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ลูกค้าที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าได้เห็นโฆษณา และกระตุ้นการซื้อได้มากยิ่งขึ้น
7. มีบริการต่าง ๆ อย่างครบวงจร แพ็กสินค้า ขนส่ง อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
สุดท้าย เป็นเรื่องของบริการต่าง ๆ หากอยากเป็นธุรกิจขายส่งที่ครองใจลูกค้าหลาย ๆ คน ต้องทำได้มากกว่าการขายส่งสินค้า นั่นก็คือการเพิ่มบริการต่าง ๆ เช่น แพ็กสินค้า ขนส่ง และบริการอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งธุรกิจการขายส่งนั้นเน้นการขายสินค้าจำนวนมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ลูกค้าขนสินค้ากลับค่อนข้างยาก ดังนั้น ถ้าร้านของคุณสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ก็จะช่วยให้ลูกค้าเลือกมาซื้อสินค้าที่ร้านมากขึ้น และครั้งหน้าต้องซื้ออีก ร้านที่เขาจะกลับมา คงหนีไม่พ้นร้านของคุณอย่างแน่นอน
สรุป
ธุรกิจขายส่ง เป็นธุรกิจที่ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ ได้ค้นพบสินค้าคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่า ในขณะเดียวกันเจ้าของธุรกิจขายส่งก็สามารถเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจได้ด้วยการคัดสรรและรวบรวมสินค้าคุณภาพดีมาขายในราคาขายส่ง และสามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าสามารถรักษาลูกค้าเก่า พร้อมกระตุ้นการขายให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่เราได้แนะนำไป ซึ่งถ้าใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม ก็จะช่วยผลักดันธุรกิจสร้างยอดขายพร้อมกำไรได้เป็นอย่างดี ผนึกกำลังด้วยการใช้ Pointspot ระบบสะสมแต้มดิจิทัลด้วยเบอร์โทร ก็จะยิ่งทำให้ร้านค้าของคุณสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมีฐานลูกค้าของธุรกิจมากมายอีกด้วย
สมัครใช้งานฟรี! Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร
หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน Pointspot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!