เปิด 4 กฎเหล็กที่ต้องเช็ค และใช้ใน Loyalty Program
การให้ความสำคัญในการใช้งาน Loyalty Program อย่างจริงจัง ย่อมช่วยเสริมสร้างฐานลูกค้าประจำที่มีความภักดี มีการกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าจะนำมาซึ่งยอดขายให้กับธุรกิจ ไปจนถึงการบอกต่อกันในช่องทางต่าง ๆ ได้ แต่ธุรกิจที่เลือกใช้ Loyalty Program แล้ว จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเครื่องมือหรือแผนกิจกรรมที่เลือกใช้งานนั้น จะส่งผลในด้านที่ดีและช่วยให้การดึงดูดลูกค้ามาสู่ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
ลองมาดูเช็คลิสต์รายการดังต่อไปนี้ ที่จะช่วยย้ำชัดและเช็คให้ชัวร์ว่าโปรแกรมความภักดีที่ธุรกิจใช้จะดำเนินการไปอย่างได้ผล โดนใจลูกค้า ดังต่อไปนี้
1. มองเห็นเป้าหมายจากการใช้งาน Loyalty Program ที่ชัดเจน
สำหรับธุรกิจที่กำลังจะเริ่มต้นใช้งาน Loyalty Program หรือเริ่มต้นไปแล้ว ไม่ว่าจะใช้งานระบบบัตรสมาชิก การสะสมแต้ม หรือคูปองต่าง ๆ ก็ตาม อาจต้องมองย้อนกลับและตั้งคำถามว่า ธุรกิจสามารถมองเห็นภาพสุดท้ายของการดำเนินการใช้งานโปรแกรมความภักดีที่ประสบความสำเร็จหรือไม่ และอยากให้ผลนั้นออกมาเป็นอย่างไร?
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็คือ เป้าหมายของการใช้งาน Loyalty Program นั่นเอง ตัวอย่างเช่น ธุรกิจใช้โปรแกรมความภักดีแล้วมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้น หรือต้องการให้ลูกค้าแต่ละรายมีการใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ไปจนถึงความต้องการให้ลูกค้ามีการแนะนำบอกต่อเพื่อนและสมาชิกครอบครัวให้มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับธุรกิจด้วย เป็นต้น
โดยการกำหนดเป้าหมายจากการใช้งานโปรแกรมความภักดีที่เลือกอาจมีเพียงเป้าหมายเดียว หรือทำพร้อมกันหลายกิจกรรมเพื่อให้บรรลุหลายเป้าหมายก็ได้ แต่ก็ไม่ควรมากเกิน 2-3 กิจกรรม เพราะอาจทำให้การบริหารจัดการนั่นยุ่งยาก และสร้างความสับสนให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมต่าง ๆ ด้วยได้
นอกจากนี้ ธุรกิจอาจลองทำตัวเลขเพื่อคาดการณ์เป้าหมายการเข้าร่วม Loyalty Program ต่าง ๆ โดยอาจนำตัวเลขจากฐานลูกค้าที่มาใช้งานในแต่ละเดือนหรือแต่ละไตรมาสมาเป็นข้อมูลตั้งต้น แล้วทำการเปรียบเทียบกับจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมความภักดี ตามอัตราต่าง ๆ เช่น จำนวนลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากขึ้นหรือไม่ มีอัตราการใช้จ่ายที่สูงขึ้นหรือลดลง หรือจำนวนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาซื้อสินค้าจากการบอกต่อของลูกค้าเก่าหรือลูกค้าประจำ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องเก็บสถิติต่าง ๆ เพื่อใช้ในการประเมินและวิเคราะห์ออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจนด้วย
แม้จะเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างมีความยุ่งยากซับซ้อนในเบื้องต้นนั้น แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อดึงศักยภาพการใช้งานเครื่องมือ Loyalty Program ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้ว ยิ่งคุณกำหนดรายละเอียดของเป้าหมายที่ชัดเจน มีความละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
2. เน้นขั้นตอนการใช้งาน Loyalty Program ให้เป็นเรื่องเรียบง่ายมากที่สุด
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจย่อมมีไอเดียมากมาย ที่ต้องการนำมาประยุกต์ใช้ให้ Loyalty Program มีความหลากหลายเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นตาน่าสนใจ แต่บางครั้งอาจลืมไปว่าการใส่ข้อมูลจำนวนมาก หรือมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากเกินไป อาจกลายเป็นการสร้างความสับสนและทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้เช่นกัน
ซึ่งการให้บริการ Loyalty Program ด้วยขั้นตอนที่ง่าย และอธิบายอย่างตรงไปตรงมาจะเป็นวิธีที่ดีกว่าในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ร่วมกิจกรรม เช่น การใช้งานระบบสะสมแต้ม สามารถระบุรายละเอียดบอกลูกค้าได้เลยว่า หากซื้อสินค้าหรือใช้บริการเป็นจำนวนเงินกี่บาทจะได้รับกี่แต้ม และของรางวัลที่จะให้ใช้พอยท์คะแนนแลกได้นั้นมีอะไรบ้าง แต่ละชนิดใช้พอยท์จำนวนเท่าใดในการแลก เป็นต้น รวมถึงแนะนำขั้นตอนการสมัครและใช้งานให้ชัดว่าเครื่องมือที่ธุรกิจเลือกใช้นั้นจะเป็นแบบดั้งเดิมคือสะสมแต้มในรูปแบบกระดาษ หรือจะเลือกใช้ระบบออนไลน์ ซึ่งให้บริการสะสมแต้มด้วยแอปพลิเคชันหรือลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ควรมีอธิบายอย่างชัดเจนเป็นเว็บเพจบนเว็บไซต์ หรือสร้างโพสต์แจ้งแก่ลูกค้าบน Social Media ก็เป็นอีกช่องทางที่สะดวกเช่นกัน เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและมีความพึงพอใจในการร่วมกิจกรรมจนจบโครงการ
3. ทีมงานมีความเข้าใจ Loyalty Program และพร้อมให้ความร่วมมือ คือสิ่งจำเป็น!
หากมองธุรกิจเป็นเครื่องจักร ที่มีพนักงานเป็นฟันเฟืองคอยสอดประสานและสนับสนุนให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างราบรื่น แต่หากฟันเฟืองอันใดอันหนึ่งไม่ได้หมุนไปในทิศทางเดียวกันตามที่ควรจะเป็น ก็อาจทำให้กระบวนการทำงานทั้งระบบเกิดการสะดุดและขัดข้องได้
ในการประยุกต์ใช้เครื่องมือ Loyalty Program เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจก็เช่นกัน ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเน้นการขายสินค้าหรือบริการ ทั้งผ่านหน้าร้านแบบออฟไลน์ หรือแม้แต่ร้านค้าออนไลน์บนเว็บไซต์หรือ Social Media ต่าง ๆ ก็ตาม เป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายความรับผิดชอบในการใช้งานเครื่องมือโปรแกรมความภักดี ที่จะต้องถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดให้กับพนักงานในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าได้รับทราบ ตั้งแต่ ประเภทของโปรแกรมความภักดีที่เลือกใช้ ลักษณะของกิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ และโดยเฉพาะรายละเอียดของรางวัลและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ทีลูกค้าจะได้รับ เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าย่อมอยากทราบมากที่สุด
และธุรกิจคงไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ลูกค้ามีความต้องการเข้าร่วม Loyalty Program แต่เมื่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ กับพนักงานของร้านค้าธุรกิจแล้ว กลับไม่ได้รับคำแนะนำหรือไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการอย่างครบถ้วน ก็อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่มั่นใจและเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมของธุรกิจ และอาจมีการบอกต่อจนทำให้ว่าที่ลูกค้ารายอื่น ๆ ปฏิเสธที่จะเข้าโปรแกรมความภักดีได้ด้วยเช่นกัน
และที่สำคัญ Loyalty Program เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความภักดี ด้วยการดึงดูดลูกค้าให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ก็จริง แต่อย่าลืมว่าหลักใหญ่ใจความที่ลูกค้ามีความต้องการก็คือสินค้าและบริการของธุรกิจ จะต้องมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และหากยิ่งรวมกับการให้บริการอย่างเต็มที่ในการทำงานปกติตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ ด้วย Service Mind หรือใจที่พร้อมให้บริการ ก็จะช่วยซื้อใจลูกค้าให้อยากกลับมาอุดหนุนธุรกิจได้มากขึ้นด้วย
4. อย่าลืม! วัดผลจากการใช้งาน Loyalty Program
ไม่ว่าคุณจะทำโครงการหรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม หากคุณไม่มีการติดตามและสรุปข้อมูลเพื่อวัดผลการทำงาน คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งที่ทำนั้นมีผลเป็นเช่นไร และประสบสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้มีความจำเป็นในการนำไปใช้ปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการของธุรกิจให้ดีขึ้นด้วย
แต่ทั้งนี้ประเภทของเครื่องมือ Loyalty Program ที่ธุรกิจเลือกใช้ก็จะมีผลต่อการตรวจสอบและติดตามวัดผลการใช้งานค่อนข้างมาก เช่น หากธุรกิจของคุณใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบดั้งเดิมอย่างเช่น บัตรสะสมแต้ม หรือบัตรสมาชิกรูปแบบกระดาษ แม้จะสั่งผลิตและแจกที่หน้าร้านได้อย่างง่าย แต่เมื่อมอบให้กับลูกค้าแล้วก็อาจจะไม่สามารถวัดผลได้อย่างสะดวกนัก เพราะทุกครั้งที่ลูกค้านำกลับมาใช้งาน ผู้ปฏิบัติงานของธุรกิจจำเป็นต้องจดบันทึกด้วยตนเองลงในกระดาษหรือโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะมีการบันทึกข้อมูลตกหล่นและผิดพลาดได้บ้าง
และสำหรับผู้ใช้ Loyalty Program แบบออนไลน์ ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าไม่ต้องพกบัตรต่าง ๆ ให้ยุ่งยากและมีความรวดเร็วในการใช้งานแล้ว ยังทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลลูกค้าที่ใช้ในการลงทะเบียน เพื่อต่อยอดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้โดยง่าย และในบางระบบยังมีการสร้างรายงานสรุปอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้กับเจ้าของธุรกิจทราบว่า ในแต่ละช่วงเวลามีลูกค้าและสมาชิกเข้าร่วมแต่ละกิจกรรมมากน้อยเพียงใด บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ และสามารถนำข้อมูลสถิติเหล่านี้ไปใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงแผนกิจกรรมต่าง ๆ ในโปรแกรมความภักดีบางจุดให้ดียิ่งขึ้น หรือปรับเปลี่ยนของรางวัลให้ถูกใจ และตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากกว่าเดิม
และด้วยกฎทั้ง 4 ข้อนี้ ที่แม้จะดูไม่ยากจนเกินไปแต่ก็ไม่ควรละเลยในการใช้งานเครื่องมือ Loyalty Program ให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่ธุรกิจต้องการ และสำหรับธุรกิจใดก็ตามที่สนใจหรือกำลังมองหาเครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ เพื่อสร้างกิจกรรมดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ พร้อมสร้างยอดขายจากฐานลูกค้าประจำ เราขอแนะนำ PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ตอบโจทย์การบริหารจัดการ Loyalty Program ยุคใหม่อย่างได้ผลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น
1. PointSpot ช่วยให้การวางแผนบริหารจัดการ Loyalty Program ตามเป้าหมายเป็นเรื่องง่าย
PointSpot ให้บริการเครื่องมือ Loyalty Program หลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ระบบบัตรสมาชิก บัตรสะสมแต้ม บัตรกำนัล รวมถึงการสร้างและให้ลูกค้าแลกคูปอง ของรางวัลต่าง ๆ โดยในระบบ PointSpot มีส่วนสำหรับตั้งค่าการใช้งานที่เอื้ออำนวยต่อแคมเปญด้านการตลาดต่าง ๆ อย่างง่าย ธุรกิจเพียงกำหนดข้อมูลและเงื่อนไขการใช้งานตามหัวข้อที่ระบบมีมาให้ ซึ่งปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่นตามต้องการ ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น
2. ขั้นตอนน้อย ใช้งานง่าย ไม่ต้องลงโปรแกรม
ลืมความยุ่งยากและขั้นตอนมากมายที่ต้องใช้ในการพิมพ์บัตรกระดาษต่าง ๆ ได้เลย เพราะด้วยระบบ PointSpot จะทำให้การบริหารจัดการ Loyalty Program เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการให้แต้มลูกค้า สร้างคูปองโปรโมชั่น เพิ่มของรางวัล หรือส่งบัตรกำนัลและบัตรสมาชิก ฯลฯ ก็สามารถทำได้เลยบน Web Browser เหมือนการใช้งานหน้าเว็บไซต์ทั่วไปบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนที่ต่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ ในการใช้งาน
และที่สำคัญ ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรับแต้มคะแนนในกิจกรรมสะสมแต้มหลังจากซื้อสินค้าหรือใช้บริการ โดยใช้เพียงเบอร์โทรศัทพ์และมือถือสมาร์ทโฟน ลูกค้าก็สามารถรับ SMS จากระบบพร้อมลิงก์เพื่อรับแต้ม เช็คแต้ม หรือแลกของรางวัลได้เลย รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานอื่น ๆ ที่ธุรกิจเปิดใช้ โดยลูกค้าไม่ต้องลงแอปพลิเคชันเพิ่มเติม
3. กำหนดสิทธิ์การใช้งาน PointSpot ให้กับพนักงานได้อย่างเป็นสัดส่วน
หากธุรกิจของคุณมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน Loyalty Program หลายคน และต้องการให้ทุกคนมีความเข้าใจและใช้งานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ระบบ PointSpot ก็ตอบโจทย์การทำงานในส่วนนี้ ด้วยฟังก์ชันผู้ดูแลระบบ (Admin) ซึ่งสามารถเพิ่มสิทธิ์ให้กับพนักงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าใช้งานระบบ PointSpot แบบแยกแอคเคาท์ผู้ใช้ ด้วยบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกันตามตำแหน่งที่ต้องการได้ ทำให้ข้อมูลลูกค้าไม่กระจัดกระจาย พร้อมช่วยให้การบริหารจัดการ Loyalty Program เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
4. PointSpot มีรายงานสำหรับธุรกิจ สรุปครบ เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้เลย
นอกจาก PointSpot จะให้บริการเครื่องมือ Loyalty Program แล้ว เมื่อมีข้อมูลลูกค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกป้อนเข้ามาในระบบก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลหลักของแต่ละกิจกรรมเท่านั้น แต่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์และสรุปเป็นสถิติ รายงาน และประวัติการใช้งาน แสดงผลในส่วนของ รายงานสำหรับธุรกิจ (Report) ซึ่งมีให้เลือกดูกว่า 10 ประเภท ช่วยให้ธุรกิจรู้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ซึ่งสามารถ Export ส่งออกข้อมูลไปใช้ในกิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ รวมถึงนำไปปรับปรุงต่อยอดแผนงานต่าง ๆ ของธุรกิจให้ดีและมีความแม่นยำมากขึ้นได้อีกด้วย
อย่าพลาด! PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ที่ตอบโจทย์การเพิ่มลูกค้าประจำให้กับธุรกิจ พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองวันนี้!
PointSpot เครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ กระตุ้นยอดขายและการซื้อซ้ำ พร้อมทำ CRM
ขอแนะนำ PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร สำหรับธุรกิจที่สนใจใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ สร้างกิจกรรมกระตุ้นการซื้อซ้ำพร้อมทำ CRM สร้างลูกค้าประจำ เพื่อเพิ่มออเดอร์และยอดขายให้ปัง พร้อมให้บริการกับลูกค้าได้ทั่วทุกที่
ด้วยฟีเจอร์ครบครันแบบ All-in-one ไม่ว่าจะเป็น บัตรสมาชิกออนไลน์สำหรับธุรกิจ, ระบบสะสมแต้มด้วยเบอร์โทรศัพท์ลูกค้า, คูปองโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม, ไปจนถึงบัตรกำนัล (Gift Voucher) และยังมีรายงานธุรกิจ สรุปวิเคราะห์ผลการดำเนินงานอีกด้วย ทั้งหมดนี้ใช้งานผ่าน Web Browser ได้เลย ไม่ต้องลงแอป ที่สำคัญ สมัครฟรี! และเริ่มใช้ได้ทันที คลิกที่แบนเนอร์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเลย!
Updated: 23 March 2021 | Produced by: Punthipa Boonruam