10 กลุ่มลูกค้าสำคัญ สร้างยอดขายให้ธุรกิจด้วย Micro Targeting
การแบ่งกลุ่มลูกค้า ถือเป็นส่วนหนึ่งในการทำ Loyalty Program เพื่อที่เราจะได้ทำการตลาดได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และยังมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจในปัจจุบันอีกด้วย การแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่ม ๆ ทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีมูลค่า เช่น ความชอบ ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถปรับผลิตภัณฑ์ บริการ และการทำการตลาดหรือแม้แต่กระทั่งการทำ Loyalty Program ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าได้ ส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและความภักดีต่อธุรกิจที่สูงขึ้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- การแบ่งกลุ่มลูกค้า มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ ?
- Micro Targeting คืออะไร ?
- ความสำคัญของ Micro Targeting ต่อธุรกิจในยุคปัจจุบัน
- 10 กลุ่มลูกค้าสำคัญ สร้างยอดขายให้ธุรกิจในยุคปัจจุบัน
- 1. ฐานลูกค้าทั้งหมด ( All Members )
- 2. ลูกค้าแบบกลุ่ม ( RFM Group )
- 3. ลูกค้าตามป้ายกำกับสมาชิก ( Member Labels )
- 4. ลูกค้าระบุรายบุคคล ( Specific Customer )
- 5. ลูกค้าตามเดือนเกิด ( Birth Month )
- 6. ลูกค้าที่มีเกณฑ์การได้รับของรางวัล ( Reward Conditions )
- 7. ลูกค้าแบบระบุจำนวนพ้อยท์ ( Point Range )
- 8. ลููกค้าที่รอสมัครสมาชิก ( Pending Members )
- 9. ลูกค้าตามบัตรสมาชิก ( Member Card )
- 10.ลูกค้าที่มีประวัติการซื้อสินค้า ( Purchase History )
- สรุป
การแบ่งกลุ่มลูกค้า มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร?
ในสภาพการแข่งขันในปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภคมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การแบ่งกลุ่มลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ Loyalty Program ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว
ด้วยการทำความเข้าใจความต้องการและความชอบเฉพาะของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ธุรกิจจะสามารถพัฒนาแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมาย ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และคุณค่าที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของตนได้ ช่วยให้ธุรกิจนำหน้าคู่แข่ง กระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า และรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดในอนาคต
Micro Targeting คืออะไร ?
Micro Targeting คือการทำการตลาดที่ใช้ข้อมูลและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง โดยการนำข้อมูลส่วนบุคคลเชิงลึกมาวิเคราะห์ เช่น พฤติกรรมการใช้งาน ความชอบส่วนตัว วันเกิด รวมถึงข้อมูลการซื้อสินค้าก่อนหน้านี้ เพื่อทำการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่มีความพร้อมที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับธุรกิจเราในเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ความสำคัญของ Micro Targeting ต่อธุรกิจในยุคปัจจุบัน
Micro Targeting มีความสำคัญอย่างมากในธุรกิจยุคปัจจุบัน เนื่องจากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง จะช่วยประหยัดงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดให้กับธุรกิจได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและงบประมาณ ในการโฆษณาแบบแพร่หลายเกินไป ทั้งนี้เพราะ Micro Targeting ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้จัดการการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้สูงขึ้น เช่น การส่งของรางวัลให้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับของรางวัล
ทุกท่านคงพอจะเข้าใจและเล็งเห็นความสำคัญ ในเรื่องของ Micro Targeting แล้ว ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการผลักดันธุรกิจในปัจจุบันให้เติบโต ทั้งด้านฐานลูกค้าประจำ การสื่อสารที่ตรงความต้องการ ยอดขายรวมถึงผลกำไรที่จะตามมา แล้วกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนบ้างจาก Micro targeting ที่จะสามารถสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้ และจะมีวิธีการจัดการหรือการสื่อสารอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
วันนี้ Pointspot ได้มีฟีเจอร์ใหม่ Micro Targeting ที่จะมาช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 10 กลุ่มที่สำคัญ ให้ธุรกิจมองเห็นเป้าหมายและโอกาสของตัวเอง ว่าจะทำการตลาดรูปแบบไหน สื่อสารอย่างไร กับใคร เพื่อให้การทำการตลาดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
10 กลุ่มลูกค้าสำคัญ จาก Micro Targeting ช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจ
ในส่วนนี้เราจะมาขอแนะนำ 10 กลุ่มลูกค้าที่สำคัญจากการใช้กลยุทธ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก ( Micro Targeting ) ด้วยการนำกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ไปทำ Loyalty program ที่เหมาะสม เช่น การส่งคูปองหรือรางวัลที่ตรงความต้องการ, การส่งข้อความแบบเฉพาะกลุ่มลุกค้าเพื่อให้รู้สึกถึงความพิเศษและมีคุณค่า ซึ่งสามารถสร้างยอดขายให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้ในอนาคต
1.ฐานลูกค้าทั้งหมด ( All Members )
ฐานลูกค้าทั้งหมดยังคงเป็นส่วนสำคัญของภาพรวมธุรกิจและการทำ Loyalty Program เราสามารถส่งข้อความหรือแคมเปญทางการตลาดของธุรกิจเราให้กลุ่มลูกค้าทั้งหมดนี้ได้เพื่อ
2.ลูกค้าแบบกลุ่ม ( RFM Group )
การแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบ RFM ซึ่งมีเฉพาะใน Poinspot จะเป็นลูกค้าตาม Segmentations ซึ่งธุรกิจสามารถส่งข้อความหรือแคมเปญทางการตลาดกระตุ้นลูกค้าใน Segmentations ต่าง ๆได้ เช่นกลุ่มลูกค้า Champion ที่มีการใช้คะแนนสูงสุด
3.ลูกค้าตามป้ายกำกับสมาชิก ( Member Labels )
เนื่องจากลูกค้าของธุรกิจมีหลากหลายประเภทและลุกค้าบางกลุ่มก็อยู่ต่างสถานที่กัน การทำ Loyalty program ย่อมแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งธุรกิจสามารถสร้างป้ายกำกับให้ลูกค้าเหล่านั้นได้ เช่น ป้ายกำกับแบ่งตามสาขา เพื่อส่งข้อมูลทางการตลาดให้เฉพาะสาขานั้น ๆ
4.ลูกค้าระบุรายบุคคล ( Specific Customer )
การเลือกทำ Loyalty Program กับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงหรือระบุเป็นรายบุคคลในบางกรณีนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางครั้งลูกค้า 1 คนมีความต้องการเฉพาะหรือเราให้ความพิเศษบางอย่างกับลูกค้าคนนั้น ๆ เช่น ธุรกิจมีการส่งบัตรส่วนลดออนไลน์ที่พักแบบพิเศษให้กับลูกค้า 3 ท่านแรกที่สมัครบัตรสมาชิกภายในเดือน
5.ลูกค้าตามเดือนเกิด ( Birth Month )
แน่นอนว่าวันเกิดเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้านั้น ๆ และยังเป็นวันที่สำคัญที่สามารถสร้างความรู้สึกทางใจได้อีกด้วย การส่งของขวัญหรือคูปองบางอย่างให้ลูกค้าในวันสำคัญนี้ถือเป็น Loyalty Program หนึ่งที่ทุกธุรกิจทำขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้แก่ลูกค้า
6.ลูกค้าที่มีเกณฑ์การได้รับของรางวัล ( Reward Conditions )
ลูกค้าบางคนอาจจะไม่ได้มีเวลามานั่งตรวจสอบว่าตัวเองจะได้ของรางวัลอะไรหรือสะสมแต้มไปถึงเท่าไหร่แล้ว การที่ธุรกิจทราบว่ามีลูกค้ากลุ่มไหนบ้างที่มีเกณฑ์การได้รับของรางวัลจะสามารถส่งของรางวัลไปให้ลูกค้ากลุ่มนั้นได้รวดเร็วขึ้น ทำให้เกิดยอดขายหรือกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจสินค้าและบริการได้เร็วขึ้น
7.ลูกค้าแบบระบุจำนวนพอยท์ ( Point Range )
ในบางกรณีการให้ส่วนลดพิเศษจากการสะสมแต้มบางอย่าง ก็ต้องคำนึงถึงผลกำไรของธุรกิจ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องเลือกส่งให้เฉพาะลูกค้าบางกลุ่มที่มีจำนวนคะแนนหรือพ้อยท์ตามที่ธุรกิจกำหนดเท่านั้น เพื่อกระตุ้นลูกค้าในกลุ่มนั้นโดยเฉพาะและไม่ให้ธุรกิจเสียผลกำไรไปเกินกว่าที่กำหนด
8.ลูกค้าที่รอสมัครสมาชิก ( Pending Members )
ลูกค้าบางกลุ่มยังไม่สามารถทำ Loyalty Program ได้เนื่องจากยังไม่เข้ามาเป็นสมาชิกของธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นเพียงการสั่งซื้อครั้งแรกหรือมีการหลงลืม เราสามารถส่งข้อความเชิญชวนหรือส่วนลดพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ได้
9.ลูกค้าตามบัตรสมาชิก ( Member Card )
เมื่อลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ธุรกิจสามารถทำบัตรสมาชิกให้ลูกค้าคนนั้น ๆ ตามการใช้จ่ายหรือประวัติการซื้อขายได้ แน่นอนว่าบัตรสมาชิกก็จะแตกต่างกันไปตามลูกค้าแต่ละราย การทำ Loyalty Program บางรายการเช่น การส่งส่วนลดพิเศษ ก็จะทำได้เฉพาะบางบัตรสมาชิกเท่านั้น เช่น ลูกค้าที่มีบัตรสมาชิกในระดับที่สูงกว่าอาจจะได้ส่วนลดที่เยอะกว่าในบางโอกาส
10.ลูกค้าที่มีประวัติการซื้อสินค้า ( Purchase History )
ลูกค้าแต่ละรายย่อมมีการสั่งซื้อสินค้าแตกต่างกันไปตามความต้องการของตัวเอง และมีปริมาณที่ไม่เท่ากัน นั่นหมายความว่าการทำการตลาดหรือการทำ Loyalty Program ก็ต้องมีความแตกต่างตามไปด้วย เช่น การให้ส่วนลดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่มีการสะสมแต้มในการซื้อสินค้าบางชนิดเท่านั้น
ซึ่ง 10 กลุ่มลูกค้าทั้งหมดนี้เป็นการแบ่งลูกค้าด้วยเทคนิคการกำหนดกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก ( Micro Targeting ) ที่ทุกธุรกิจควรให้ความสำคัญเพื่อการทำโปรแกรมทางการตลาดทั่วไปหรือการทำ Loyalty Program ให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และตรงความต้องการของลูกค้าที่สุดซึ่ง สามารถใช้การทำ Loyalty Program กลับ 10 กลุ่มลูกค้าสำคัญนี้ได้ด้วยระบบ Poinspot ระบบสะสมสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เพื่อยกระดับธุรกิจของคุณให้เติบโต สร้างยอดขายและกำไร ทันคู่แข่งได้ในอนาคต
สรุป
โดยสรุปแล้ว การกำหนดกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก ( Micro Targeting ) มีความสำคัญในการตลาดสมัยใหม่ เนื่องจากความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพความพยายามทางการตลาด สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่งขึ้น และปรับตัวให้เข้ากับผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ด้วยการใช้กลยุทธ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก ( Micro Targeting ) ร่วมกับการทำ Loyalty Program ธุรกิจจะสามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ ปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า และช่วยรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่ไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน
สมัครใช้งานฟรี! Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร
หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน Pointspot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!