3 วิธีเข้าไปนั่งในใจลูกค้า พาธุรกิจให้เป็นที่พูดถึง

จุดประสงค์หลักของการใช้งานเครื่องมือ Loyalty Program ก็เพื่อสร้างกิจกรรมระหว่างธุรกิจและลูกค้า ให้นำมาซึ่งการกลับมาซื้อซ้ำ เปลี่ยนลูกค้าใหม่สู่การเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มนี้

 

แม้สิ่งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจต้องใช้เวลา แต่หากธุรกิจเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ด้วยการใช้โปรแกรมความภักดี ผสานกับเทคนิคที่ PointSpot Blog นำมาฝากในวันนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถให้การบริการที่ประทับใจและยืนหนึ่งในใจลูกค้าได้ ดัวย 3 วิธีต่อไปนี้

 

1. อัตราความพึงพอใจของลูกค้า มาจากการบริการที่เต็มใจของพนักงาน

การมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ คือจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความสำเร็จก็คือการบริการและการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างธุรกิจกับลูกค้า

หากธุรกิจของคุณมีพนักงานผู้ให้บริการลูกค้าที่หน้าร้าน หรือพนักงานที่คอยดูแลให้ข้อมูลลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือแม้แต่ตัวเจ้าของธุรกิจเองเป็นผู้ดูแลลูกค้า ก็ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ดูแลเทคแคร์ลูกค้า ให้ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับบริการที่น่าประทับใจ โดยการที่จะสร้างสิ่งดี ๆ เหล่านี้ได้ พนักงานของธุรกิจจะต้องเข้าใจสินค้าและรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน

แน่นอนว่าหากพนักงานของธุรกิจรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ โดยธุรกิจเองก็มีการแสดงออกว่าพนักงานเป็นบุคลากรที่คุณค่า สิ่งดี ๆ เหล่านี้จะสามารถถูกส่งต่อไปยังลูกค้าของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นความเต็มใจในการให้บริการ ซึ่งลูกค้าก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี และด้วยการบริการที่ดีเยี่ยมก็จะส่งผลให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้มากขึ้น โดยในเว็บไซต์ HubSpot ระบุว่า มีลูกค้ากว่า 93% เลยทีเดียว ที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อซ้ำกับธุรกิจที่มีการให้บริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม เพราะลูกค้ารู้สึกว่ามีความมั่นใจว่าครั้งต่อไปที่พวกเขามีความต้องการที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการประเภทเดิมนี้ พวกเขาจะเลือกซื้อซ้ำจากธุรกิจหรือร้านค้าเดิมเหล่านี้ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและดีดังเดิม

นอกจากนี้ เมื่อผนวกกับการใช้งานเครื่องมือ Loyalty Program ด้วยการให้ของรางวัลและโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้อย่างดีแล้วนั้น ย่อมช่วยขับเคลื่อนยอดขายให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน โดยมีผลการสำรวจจากเว็บไซต์ eMarketer แสดงผลข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า Gen Z ซึ่งเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในการช็อปปิ้งจากธุรกิจค้าปลีก มีถึง 58.7% บอกว่า การได้รับของรางวัลหรือคะแนนสะสมเพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากธุรกิจได้นั้นเป็นสิ่งพวกเขาชื่นชอบ เพราะเป็นความคุ้มค่าที่ดีที่ได้รับจากการช็อปปิ้ง และหากธุรกิจมีการบริการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็วด้วย ก็จะสร้างความพึงพอใจได้มากขึ้น เพราะมีถึง 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามยกให้บริการด้านนี้เป็นอันดับ 1 ของตัวเลือกแบบสอบถามเลยทีเดียว


ภาพประกอบจากจากเว็บไซต์ eMarketer

ดังนั้น ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใคร เข้ามาอุดหนุนธุรกิจจากช่องทางใดก็ตาม อย่าลืมใช้เครื่องมือ Loyalty Program บวกกับการใส่ใจในการให้บริการจากพนักงานในธุรกิจ ช่วยพิชิตใจลูกค้าให้อยู่หมัดได้อย่างแน่นอน

2. เสียงของลูกค้า คือตัววัดค่าความสำเร็จหลักของธุรกิจ

เมื่อดำเนินธุรกิจมาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งจนเป็นที่รู้จักแล้ว ธุรกิจอาจมีฐานลูกค้าประจำที่กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยความชอบในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการได้ หรืออาจด้วยการบริการที่น่าประทับใจ ไปจนถึงการกลับมาเพื่อสะสมสิทธิประโยชน์ความคุ้มค่าใน Loyalty Program ให้ได้ของรางวัล หรือโปรโมชั่นส่วนลดตามที่ธุรกิจมอบให้ก็ตาม และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ธุรกิจต้องพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง

นอกเหนือจากการหาวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพเพื่อใช้ในการผลิตแล้ว การทำสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าก็เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้น เสียงจากลูกค้า คือส่วนสำคัญที่ธุรกิจจะต้องรับฟัง ซึ่งไม่ว่าจะมาจากช่องทางใดก็ตาม ธุรกิจก็ควรรับฟังและตอบสนองความปรารถนาเหล่านี้ให้ได้

สำหรับไอเดียในการรับฟังเสียงความต้องการของลูกค้า ธุรกิจสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มต้นง่าย ๆ เช่น การโพสต์สเตตัสสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยอาจจัดเป็นกิจกรรมร่วมสนุกบน Social Media ให้ลูกค้าเข้ามาคอมเมนต์ และธุรกิจอาจมีของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอบแทนลูกค้าที่สละเวลาเข้ามาให้คำแนะนำ แน่นอนว่า สามารถมอบของรางวัลจาก Loyalty Program อย่างคูปองโปรโมชั่น หรือแต้มสะสมคะแนนพิเศษ เพื่อสนับสนุนการกลับมาซื้อซ้ำก็ไม่ผิดกติกา เป็นต้น หรือหากต้องการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจัง ธุรกิจอาจทำแบบสอบถามหลังการซื้อหรือใช้บริการส่งให้ลูกค้าอย่างเป็นทางการ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การโทรศัพท์สอบถาม การส่งข้อความ SMS พร้อมลิงก์แบบสอบถามไปยังเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า หรือส่งผ่านช่องทางอีเมลให้กับลูกค้า เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าแจ้งข้อมูลความคิดเห็นได้โดยตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรคะยั้นคะยอเพื่อขอข้อมูลจากลูกค้าจนเหมือนเป็นการรบกวนความเป็นส่วนตัมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกแง่ลบมากกว่า

และสุดท้ายเมื่อธุรกิจได้นำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบรับกับความต้องการตามเสียงที่ลูกค้าเรียกร้องได้จริง ย่อมสร้างความพึงพอใจ และยิ่งทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวหน้าไปได้อีกขั้น

3. ใช้พลังของการบอกต่อให้เป็นประโยชน์

มีงานวิจัยที่ระบุเกี่ยวกับการทำการตลาดแบบบอกต่อหรือปากต่อปาก (Word-Of-Mouth) ว่าเป็นรูปแบบการทำการตลาดที่ผู้คนให้ความเชื่อถือมากที่สุด เพราะการบอกเล่าจากเพื่อนหรือคนที่รู้จักมักจะมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากกว่าโฆษณาจากธุรกิจนั้นโดยตรง

รวมไปถึงการที่ลูกค้าเขียนบทวิจารณ์สินค้าและบริการจากประสบการณ์การใช้งานจริง หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นเคยด้วยคำว่า "รีวิว" ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการทำการตลาดให้กับธุรกิจได้เช่นกัน โดยในเว็บไซต์ HubSpot ได้ระบุสถิติอีกว่า มีผู้บริโภคถึง 77% ที่มักมีการแบ่งปันประสบการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับธุรกิจร้านค้าให้กับเพื่อน ๆ หรือผู้คนอื่น ๆ บนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์รีวิวต่าง ๆ และในเว็บไซต์ Inc.com บอกว่า ผู้บริโภคอีก 84% ที่เชื่อถือรีวิวออนไลน์เหล่านี้มากพอ ๆ กับการเชื่อคำบอกเล่าของเพื่อนที่รู้จักเลยทีเดียว

ดังนั้น นอกจากธุรกิจจะเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวบอกเล่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเองโดยตรง ก็ควรใช้พลังของการรีวิวและบอกต่อเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย โดยให้ลูกค้าที่เคยมาอุดหนุนเป็นกระบอกเสียงในการทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจุดเริ่มต้นที่ง่ายและดึงดูดสายตาลูกค้าทั่วไปได้มากที่สุดก็คือ การแสดงรีวิวบน Social Media ต่าง ๆ ซึ่งธุรกิจอาจเริ่มต้นจากการเชิญชวนลูกค้าประจำที่มาอุดหนุนที่ร้าน ให้ร่วมกิจกรรมกด Check-in และแชร์รูปถ่ายสินค้าหรือบรรยากาศในร้าน พร้อมคำบรรยายสั้น ๆ หรือหากเป็นการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ก็อาจมีพื้นที่ให้ลูกค้ากลับมารีวิวสินค้าได้เช่นกัน และธุรกิจก็สามารถมอบสินค้าของแถมที่ระลึก หรือคูปองโปรโมชั่นต่าง ๆ แทนคำขอบคุณในการรีวิวแก่ลูกค้าได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรีวิวสินค้าของธุรกิจก็อาจไม่ได้มีแต่ด้านที่ดีเสมอไป ธุรกิจต้องมีการเตรียมตัวรับมือหากมีคำวิจารณ์ด้านลบปรากฎขึ้นมา ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือ รับฟังเสียงเหล่านั้นเช่นกัน และรีบแสดงความรับผิดชอบโดยการขออนุญาตติดต่อกลับลูกค้าโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้แย้งบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่วนใหญ่มักจะบานปลายและส่งผลกระทบในด้านลบต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจได้ และแน่นอนว่าหากธุรกิจสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างดี มีความเป็นมืออาชีพในด้านการบริการ ก็จะสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นได้อย่างดีทีเดียว

ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยเทคนิค 3 วิธีข้างต้นนี้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่กล่าวถึงของลูกค้าได้อย่างแน่นอน และเพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ให้ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ไม่ลืมธุรกิจ ต้องไม่พลาด การใช้เครื่องมือ Loyalty Program ควบคู่กันไป เพื่อช่วยในการดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม ระบบบัตรกำนัล และคูปองโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งล้วนมีประสิทธิภาพและสร้างผลประโยชน์คุ้มค่าให้กับธุรกิจได้

ยิ่งหากธุรกิจเลือกใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันถูกพัฒนาการใช้งานให้ง่ายและสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมใด ๆ ก็สามารถใช้งานได้ อย่างใน PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่จะดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำอย่างครบครัน  ไม่ว่าจะเป็น

- ระบบสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร อำนวยความสะดวกร้านค้าให้พอยท์ง่าย เพียงกำหนดเงื่อนไขการให้พอยท์ และเพิ่มรายการของรางวัล พร้อมระบบบริหารจัดการส่งพอยท์ให้ลูกค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ โดยไม่ต้องลงโปรแกรมใด ๆ เพิ่มเติม และยังสามารถวัดผลการใช้งานจากรายงานได้หลากหลายประเภท

ในฝั่งของลูกค้าของธุรกิจก็สามารถรับพอยท์ได้อย่างสะดวก เพียงลูกค้าบอกเบอร์โทรศัพท์มือถือกับร้านค้าที่ใช้งานระบบ PointSpot จากนั้นลูกค้าก็จะได้รับข้อความ SMS แจ้งลิงก์สำหรับกดเข้าไปดูรายละเอียดพอยท์คะแนนที่เพิ่งได้รับ รวมถึงตรวจสอบคะแนนรวมสะสมปัจจุบันได้ตลอดเวลาที่ต้องการ และกดแลกของรางวัลด้วยตนเองผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย ทีสำคัญมีฟีเจอร์โอนพอยท์ให้เพื่อน ให้ลูกค้าสามารถโอนพอยท์สะสมให้กันแก่เพื่อนที่เป็นสมาชิกในระบบ PointSpot ของธุรกิจเดียวกันได้อีกด้วย

- ระบบบัตรสมาชิกออนไลน์ ช่วยธุรกิจประหยัดงบประมาณและเวลา เพราะไม่ต้องพิมพ์บัตรกระดาษหรือพลาสติกให้กับสมาชิกอีกต่อไป เพราะสามารถออกบัตรสมาชิกดิจิทัลให้ลูกค้าได้ทันที พร้อมฟังก์ชันการใช้งานในการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามระดับบัตรได้ถึง 3 ระดับเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากธุรกิจที่แตกต่างกัน สร้างความภักดีให้กับลูกค้าคนสำคัญของธุรกิจได้ไม่ยากใช้ได้กับทุกธุรกิจ

 

- ระบบคูปองและบัตรกำนัลดิจิทัล สุดยอดเครื่องมือในการกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าทำให้เกิดการกลับมาซื้อซ้ำได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าที่ได้รับย่อมไม่อยากพลาดโอกาสในการใช้คูปองเป็นส่วนลดหรือแลกรับโปรโมชั่นต่าง ๆ ยื่งเป็นรูปแบบดิจิทัลที่ใช้งานง่ายผ่านลิงก์ใน SMS เหมือนระบบสะสมแต้ม ก็ทำให้ลูกค้าไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการพกพาคูปองและบัตรกำนัลให้ยุ่งยากเต็มกระเป๋าอีกต่อไป

เริ่มต้นความสำเร็จให้กับธุรกิจ พิชิตใจลูกค้าให้เป็นผู้ซื้อขาประจำ ด้วยเครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ ที่สร้างการซื้อซ้ำอย่างได้ผล เริ่มต้นเลยด้วย PointSpot ใช้งานได้เลยวันนี้สำหรับทุกธุรกิจ

PointSpot เครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ กระตุ้นยอดขายและการซื้อซ้ำ พร้อมทำ CRM

ขอแนะนำ PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร สำหรับธุรกิจที่สนใจใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ สร้างกิจกรรมกระตุ้นการซื้อซ้ำพร้อมทำ CRM สร้างลูกค้าประจำ เพื่อเพิ่มออเดอร์และยอดขายให้ปัง พร้อมให้บริการกับลูกค้าได้ทั่วทุกที่

ด้วยฟีเจอร์ครบครันแบบ All-in-one ไม่ว่าจะเป็น บัตรสมาชิกออนไลน์สำหรับธุรกิจ, ระบบสะสมแต้มด้วยเบอร์โทรศัพท์ลูกค้า, คูปองโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม, ไปจนถึงบัตรกำนัล (Gift Voucher) และยังมีรายงานธุรกิจ สรุปวิเคราะห์ผลการดำเนินงานอีกด้วย ทั้งหมดนี้ใช้งานผ่าน Web Browser ได้เลย ไม่ต้องลงแอป ที่สำคัญ สมัครฟรี! และเริ่มใช้ได้ทันที คลิกที่แบนเนอร์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเลย!

PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าประจำ ด้วย Loyalty Program และคูปองโปรโมชั่น ใช้งานง่าย ไม่ต้องพกบัตร ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลในการทำ CRM ช่วยสร้างการซื้อซ้ำ และจดจำแบรนด์

Updated: 26 March 2021 | Produced by: Punthipa Boonruam