คลายข้อสงสัย ระบบสะสมแต้มใน Loyalty Program ควรกำหนดวันหมดอายุหรือไม่

ตัวอย่างรูปแบบการกำหนดวันหมดอายุของพอยท์คะแนนในระบบสะสมแต้ม

ในเบื้องต้น การใช้ระบบสะสมแต้มสำหรับธุรกิจทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้รูปแบบของบัตรสะสมแต้มแบบกระดาษ หรือระบบสะสมแต้มแบบออนไลน์ เช่น ใน PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร และคูปองโปรโมชั่น ก็สามารถกำหนดเงื่อนไขให้พอยท์คะแนนสะสมแต้มมีการหมดอายุตามช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ ดังต่อไปนี้

1. กำหนดวันหมดอายุของพอยท์คะแนนแบบเฉพาะเจาะจง

นับเป็นวิธีทั่วไปที่ใช้ในการตั้งค่าวันหมดอายุของพอยท์คะแนนในระบบสะสมแต้ม โดยการกำหนดวันหมดอายุที่เฉพาะเจาะจง เช่น ในระบบ PointSpot จะให้ธุรกิจเลือกเดือนและปีที่พอยท์คะแนนหมดอายุ และเมื่อถึงวันสุดท้ายของแต่ละเดือนในปีนั้น ๆ ตามกำหนด ระบบก็จะดึงพอยท์กลับคืนอัตโนมัติ เป็นต้น

ซึ่งวิธีนี้จะง่ายสำหรับธุรกิจในการบริหารจัดการแคมเปญ เพราะไม่ว่าลูกค้าจะสมัครเข้าร่วมกิจกรรมสะสมแต้มเมื่อไร แต่พอยท์คะแนนในแคมเปญก็จะใช้ได้แค่ถึงระยะเวลาที่กำหนดพร้อมกันทั้งหมด แต่สำหรับในฝั่งลูกค้าแล้ว บางรายอาจมีความรู้สึกว่ามีเวลาไม่มากพอที่จะสะสมคะแนนให้ได้ของรางวัลที่ต้องการ โดยเฉพาะลูกค้าที่เพิ่งเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงท้ายของแคมเปญ ธุรกิจจึงต้องมีการสื่อสารเงื่อนไขให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

2. กำหนดวันอายุของพอยท์คะแนนสะสมแบบทยอยหมดอายุ

สำหรับตัวเลือกนี้จะเป็นการตั้งค่าให้พอยท์คะแนนหมดอายุไปตามกิจกรรมของลูกค้า หรือตามที่ธุรกิจกำหนด เช่น การทยอยดึงพอยท์คะแนนสะสมให้หมดอายุเป็นรายเดือน นับจากเดือนที่ลูกค้าได้รับพอยท์นั้น ๆ โดยหากลูกค้าได้รับพอยท์ในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 และธุรกิจกำหนดให้พอยท์มีอายุ 1 ปี ดังนั้นพอยท์ชุดนี้จะหมดอายุในวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ปี 2022 เป็นต้น

3. ไม่กำหนดวันหมดอายุของพอยท์คะแนนในระบบสะสมแต้มเลย

ธุรกิจสามารถให้ลูกค้าร่วมกิจกรรมสะสมแต้มพร้อมแลกของรางวัลยอดนิยมหรือโปรโมชันที่ต้องการได้เรื่อย ๆ โดยไม่มีกำหนดขอบเขตวันหมดอายุ ขึ้นอยู่กับแผนกิจกรรมการตลาดของธุรกิจระยะยาว หรือจนกว่าธุรกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ซึ่งจำเป็นต้องมีการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า เพื่อไม่ให้กระทบกับการรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาว

ประโยชน์ที่ได้รับเมื่อธุรกิจกำหนดวันหมดอายุให้กับระบบสะสมแต้มใน Loyalty Program

1. วันหมดอายุของคะแนนสะสม เป็นตัวช่วยธุรกิจในการกระตุ้นยอดขาย

โดยปกติหากผู้บริโภคไม่ได้รับข้อจำกัดใด ๆ ทางด้านเวลา ในการสะสมแต้มและคะแนน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ใน Loyalty Program อาจทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องเร่งรีบเพราะสามารถร่วมกิจกรรมเมื่อไรก็ได้ จนอาจลืมเลือนธุรกิจไปในที่สุด

แต่ด้วยการกำหนดขอบเขตวันหมดอายุของคะแนนสะสม จะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้ลูกค้ามีความกระตือรือร้นและมีแรงจูงใจที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ได้ อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าอาจมีปริมาณการซื้อที่มากขึ้น และมียอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในคราวเดียว เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทันตามต้องการในกรอบเวลาที่กำหนดด้วย

2. ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ เพื่อสะสมแต้มให้ครบก่อนหมดอายุ

แม้จุดประสงค์หลักที่ผู้บริโภคเข้ามาอุดหนุนธุรกิจเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการ แต่หากว่าการทำธุรกรรมนั้นทำให้พวกเขาได้รับพอยท์คะแนน และในแคมเปญสะสมแต้มมีของรางวัลที่สนใจอยู่ด้วย ก็จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งดึงดูดลูกค้า ทำให้อยากกลับมาซื้อซ้ำเพื่อให้ได้พอยท์ครบตามจำนวนสำหรับแลกรับของรางวัลภายในระยะเวลาที่กำหนดได้

แต่ไม่เพียงแค่มีวันหมดอายุของพอยท์คะแนน แต่ธุรกิจต้องมั่นใจว่าโปรแกรมการสะสมแต้มและคะแนนจะต้องมีของขวัญที่ลูกค้าสนใจหรือของรางวัลยอดนิยมมากพอที่จะดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ และตราบใดที่ธุรกิจยังจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการ และสามารถสื่อให้เห็นคุณค่าที่แท้จริงของกิจกรรมสะสมแต้มคะแนน ก็จะเปลี่ยนให้ผู้บริโภคกลายมาเป็นลูกค้าประจำของธุรกิจได้ในที่สุด

3. สร้างโอกาสในการติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งพอยท์คะแนนหมดอายุและทำการตลาดเพิ่มเติม

เพราะลูกค้าอาจลืมว่าพอยท์คะแนนที่ตนเองมีนั้น มีการกำหนดวันหมดอายุ ธุรกิจจึงควรมีการแจ้งเตือนลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม ให้กลับมาซื้อซ้ำเพื่อทำคะแนนเพิ่ม หรือนำพอยท์คะแนนที่มีมาแลกของรางวัลก่อนที่จะพอยท์เหล่านั้นจะหมดอายุ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลแจ้งเตือนทางอีเมล หรือ SMS ไปให้ลูกค้าแต่ละรายโดยตรง โดยธุรกิจอาจมีการนำเสนอสินค้าและบริการ ที่มีโปรโมชั่นเกี่ยวข้องกับการสะสมแต้มแนะนำเพิ่มเติมให้กับลูกค้าได้ด้วย นอกจากจะเพิ่มช่องทางทำการตลาด ยังสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้ด้วย

4. พอยท์คะแนนเป็นข้อพิสูจน์ความภักดีภายในกรอบเวลา และสร้างลูกค้าประจำตัวจริง

ด้วยการกำหนดให้โปรแกรมการสะสมแต้มและคะแนนที่ให้พอยท์หมดอายุจะไม่ได้ลดทอนความภักดีของลูกค้า แต่กลับช่วยสานความสัมพันธ์ที่มีต่อแบรนด์ธุรกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าประจำที่มีความภักดี และผู้บริโภคที่มีการกลับมาซื้อซ้ำจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการร่วมกิจกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นหรือของรางวัลต่าง ๆ ที่ใช้พอยท์แลกได้ ซึ่งจะตรงตามวัตถุประสงค์หลักของการจัดกิจกรรมสะสมแต้ม

นอกจากนี้ ด้วยกรอบระยะเวลาสิ้นสุดที่กำลังจะมาถึงของคะแนนสะสมที่ใกล้หมดอายุ จะยิ่งกระตุ้นให้ลูกค้าคิดถึงผลิตภัณฑ์จากธุรกิจของคุณบ่อยครั้งขึ้น เพิ่มโอกาสที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าหรือรีบมาแลกพอยท์คะแนนก่อนถึงกำหนด

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อกำหนดให้พอยท์คะแนนในระบบสะสมแต้มหมดอายุ

1. พอยท์คะแนนที่หมดอายุส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้า

การกำหนดวันหมดอายุของพอยท์คะแนนนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและบริการของธุรกิจเป็นหลัก เพราะหากไม่สอดคล้องกันแล้วอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกเอาเปรียบจากการที่พอยท์คะแนนหมดอายุได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับลูกค้าที่ซื้อโทรทัศน์ไปแล้ว อาจไม่ได้กลับมาซื้อซ้ำในเร็ววันอย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีการกำหนดวันหมดอายุพอยท์ที่รวดเร็วเกินไปก็อาจทำให้การใช้ Loyalty Program เพื่อสร้างลูกค้าประจำนั้นไมได้ผลดีอย่างที่ควรได้

2. คะแนนสะสมที่หมดอายุก่อให้เกิดเงื่อนไขที่มากเกินความจำเป็น

แน่นอนว่าการสะสมแต้มและคะแนนจะมีเงื่อนไขหลัก ๆ ในการซื้อสินค้าและใช้บริการเพื่อให้ได้พอยท์ รวมถึงข้อตกลงในการแลกของรางวัลยอดนิยม แต่หากมีการกำหนดวันหมดอายุของพอยท์รูปแบบต่าง ๆ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมให้กับลูกค้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น จึงเป็นอีกสิ่งที่ธุรกิจควรตระหนักว่าการใช้งานรูปแบบนี้จะไม่สร้างภาระเกินความจำเป็น รวมถึงไม่เป็นการเอาเปรียบลูกค้าด้วย

3. พอยท์หมดอายุทำให้ความรู้สึกอยากเข้าร่วมกิจกรรมสะสมแต้มของลูกค้าน้อยลง

Loyalty Program ที่ดี ไม่เพียงแต่ดึงดูดลูกค้าที่มียอดการใช้จ่ายสูงให้กลับมาซื้อซ้ำจนเป็นลูกค้าประจำได้เท่านั้น แต่ยังช่วยจูงใจให้ลูกค้าทุกรายอยากกลับมาอุดหนุน ไม่ว่าจะมีความภักดีอยู่ในระดับใดก็ตาม แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาในการร่วมกิจกรรมที่อาจน้อยหรือมีความกดดันจนเกินไป ก็ทำให้ลูกค้าอาจต้องคอยกังวลว่าจะสะสมคะแนนไม่ทัน ซึ่งหากธุรกิจไม่กำหนดเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการร่วมกิจกรรมของลูกค้าอย่างสมเหตุสมผลก็อาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกเชิงลบขึ้นมาได้ 

4. อาจทำให้การสร้างประสบการณ์ความภักดีจาก Loyalty Program ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

ปกติแล้ว หัวใจสำคัญในการมอบประสบกาณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งการที่ธุรกิจได้ให้คะแนนสะสมเป็นสื่อกลางในการร่วมโปรแกรมความภักดีนั้นก็จะช่วยสะสมความรู้สึกผูกพันที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ได้เช่นกัน

แต่ในกรณีที่คะแนนเหล่านี้มีการนับถอยหลังวันหมดอายุ ย่อมสร้างความรู้สึกกดดันและเร่งรีบให้ลูกค้าด้วย ซึ่งหากลูกค้ารู้สึกเช่นนี้ไปตลอดที่ร่วมกิจกรรม ก็อาจทำให้ลดคุณค่าที่แท้จริงที่ Loyalty Program จะสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้

ข้อแนะนำในการกำหนดพอยท์แบบหมดอายุอย่างเหมาะสม

1. พิจารณาประเภทสินค้าและบริการเป็นหลัก

หากสินค้าและบริการของคุณนั้น สามารถให้ลูกค้ากลับมาซื้อหรือใช้บริการซ้ำได้บ่อยครั้ง เช่น จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ บริการด้านความงาม คาร์แคร์ เพ็ตช็อป กรูมมิ่งสัตว์เลี้ยง ฯลฯ การจัดกิจกรรมสะสมแต้มพร้อมกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดแคมเปญก็สามารถทำได้ แต่หากเป็นสินค้าที่ซื้อ 1 ครั้งแล้วใช้ได้นาน เช่น ลูกค้าที่ซื้อปั๊มน้ำ อาจไม่ได้กลับมาซื้อซ้ำใน 4-5 ปีนี้ การใช้พอยท์แบบหมดอายุภายใน 1-2 ปีก็อาจไม่เหมาะสมนัก เป็นต้น

2. กำหนดระยะเวลาให้เหมาะสม

เบื้องต้นแล้ว การกำหนดระยะเวลากิจกรรมสะสมแต้มและคะแนนอย่างง่าย ก็อาจจะอยู่ในระยะเวลาหนึ่งปีเป็นอย่างน้อย เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีเวลาเพียงพอในการรับและใช้คะแนนแลกของรางวัลที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังเป็นการให้เวลาลูกค้าได้ซื้อสินค้าหลายครั้ง หลายรายการภายในระยะเวลาหนึ่งปีได้ด้วย

3. มีการแจ้งเตือนก่อนที่พอยท์คะแนนจะหมดอายุ

ธุรกิจควรมีการสื่อสารไปยังลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมสะสมแต้มและคะแนนล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้ทราบว่าคะแนนของพวกเขากำลังจะหมดอายุ เช่น 3 เดือน, 1 เดือน หรือแม้แต่ 1 สัปดาห์ก่อนหน้าที่พอยท์คะแนนจะหมดอายุ โดยหากคุณใช้ระบบบัตรสะสมแต้มแบบกระดาษ ก็อาจต้องหาช่องทางต่าง ๆ เพื่อแจ้งลูกค้าให้ได้ หรือหากคุณใช้ระบบสะสมแต้มแบบออนไลน์ เช่น ในระบบ PointSpot ซึ่งธุรกิจที่เลือกตั้งค่าพอยท์หมดอายุในระบบแบบทยอยหมดอายุในแต่ละเดือน ระบบจะมีการแสดงผลให้ลูกค้าสามารถดูวันหมดอายุของพอยท์คะแนนของตนเองล่วงหน้า 3 เดือน และสามารถดูจำนวนพอยท์ที่จะทยอยหมดอายุในแต่ละเดือนได้ ช่วยให้ลูกค้าวางแผนในการร่วมกิจกรรมเพื่อให้ได้ของรางวัลยอดนิยมตรงใจแบบไม่เสียสิทธิ์ เป็นต้น

4. เลือกใช้ Loyalty Program อื่นๆ ควบคู่กับระบบสะสมแต้ม

เพื่อให้การสะสมแต้มเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากลูกค้าจะได้พอยท์คะแนนจากการซื้อสินค้าหรือใช้บริการแล้ว ธุรกิจสามารถนำเครื่องมือ Loyalty Program อื่น ๆ มาจัดแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าได้พอยท์เพิ่มขึ้นระหว่างที่ร่วมกิจกรรม โดยมีตัวอย่างเครื่องมือในระบบ PointSpot ที่ธุรกิจสามารถประยุกต์ใช้เพื่อให้พอยท์แก่ลูกค้าเพิ่มได้ เช่น

• พีเจอร์พอยท์ต้อนรับ (Welcome Points) ธุรกิจสามารถมอบพอยท์ให้กับลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกใหม่ในระบบ PointSpot ของธุรกิจอัตโนมัติ

• ฟีเจอร์เพื่อนชวนเพื่อน (Friend Get Friends) ให้พอยท์เพิ่มสำหรับลูกค้าปัจจุบัน เมื่อชวนเพื่อนมาเป็นสมาชิกใหม่ในระบบ PointSpot ของธุรกิจ ซึ่งจะได้รับพอยท์ทั้งผู้เชิญและผู้ถูกเชิญ

• เกมวงล้อเพิ่มพอยท์ ให้ลูกค้าลุ้นรับพอยท์เพิ่มจากการหมุนวงล้อ หลังจากที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากธุรกิจและได้รับพอยท์ตามปกติ

สุดท้ายแล้ว การที่ธุรกิจจะกำหนดให้พอยท์คะแนนในระบบสะสมแต้มให้หมดอายุก็เป็นเงื่อนไขปกติที่ธุรกิจสามารถทำได้ หากมีการกำหนดระยะเวลาร่วมกิจกรรมเข้ากับประเภทสินค้าและบริการ รวมถึงเงื่อนไขในการแลกของรางวัลต่าง ๆ อย่างเหมาะสมควบคู่กัน และที่สำคัญหากเลือกใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ อย่าง PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร และคูปองโปรโมชัน ที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งธุรกิจและลูกค้า สามารถรับ-ส่ง-แลกพอยท์คะแนนได้จากทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้แค่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องพกบัตรใด ๆ ให้ยุ่งยาก พร้อมด้วยฟีเจอร์เสริมความภักดีที่มีประโยชน์อีกมากมาย ก็จะยิ่งทำให้กิจกรรมสะสมแต้มของคุณน่าประทับใจและดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำต่อเนื่องได้อย่างแน่นอน

สมัครใช้งานฟรี! PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร

หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน PointSpot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program   อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!