6 เทคนิคพิชิตใจลูกค้าประจำ สร้างการซื้อซ้ำอย่างได้ผล
รู้ไหมว่า การรักษาฐานลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำนั้น ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่าการไปหาลูกค้าใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่า เขาจะซื้อสินค้าเราหรือไม่ อีกทั้งลูกค้าเก่ายังมีเปอร์เซ็นที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าเราได้ง่ายกว่าลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักธุรกิจเราเลย เพราะอย่างน้อยก็รู้จักและเคยใช้สินค้าของเราไปแล้ว ในขณะที่ลูกค้าใหม่ก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้า ที่กว่าจะตีสนิท เปลี่ยนให้มาเป็นคนรู้ใจหรือลูกค้าตัวจริงก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น ถ้าคุณอยากเพิ่มยอดขายโดยที่ไม่ต้องลงทุน ลงแรง และเวลาเยอะ ลองมาใช้กลยุทธ์ในการพิชิตใจลูกค้าประจำกัน ด้วยการใช้เครื่องมือทำ Loyalty Program ด้วย Pointspot กันค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ทำไมธุรกิจถึงต้องมีการเพิ่มลูกค้าประจำ
- ข้อดีของการมีลูกค้าประจำ
- 6 วิธี เพิ่มลูกค้าประจำ สร้างการซื้อซ้ำแบบได้ผล
- สรุป
ทำไมธุรกิจถึงต้องมีการเพิ่มลูกค้าประจำ?
หากธุรกิจเราต้องหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา ก็จะทำให้เราต้องเสียต้นทุนในการทำการตลาดจำนวนมาก เพื่อหาคนใหม่ไปเรื่อยๆ และการโน้มน้าวลูกค้าใหม่ให้ตัดสินใจซื้อได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อาจกลายเป็นว่า กว่าจะหาลูกค้าใหม่ได้ เดือนนี้เราอาจขายของไม่ได้เลย แต่ถ้าหากเรามีลูกค้าประจำ และเขารู้สึกประทับใจสินค้าของเรา เขาก็จะกลับมาซื้อสินค้าเราซ้ำบ่อยครั้ง แม้ว่าเราไม่ได้ทำการตลาดอะไร ทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มลูกค้านี้มีโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเป็นจำนวนมากโดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ และจะดีกว่าใหม่ ถ้าเราสามารถสะสมและรักษาฐานลูกค้าประจำให้มีจำนวนมากกว่าเดิม
ข้อดีของการมีลูกค้าประจำ
ทำไมลูกค้าประจำถึงสำคัญกับธุรกิจของเรา และคุ้มค่าไหมที่เราจะวางกลยุทธ์ หรือทำการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ลองมาดูข้อดีของการมีลูกค้าประจำกันค่ะว่า จะช่วยผลักดันธุรกิจของคุณได้ไกลมากขนาดไหน
1. มีความภักดีในแบรนด์
ความภักดีในแบรนด์ (Brand Loyalty) คือ การที่ลูกค้ามีความเชื่อมั่น เชื่อใจในสินค้าและบริการของธุรกิจเรา ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะกลับมาซื้อสินค้าและบริการซ้ำมากกว่า 2 ครั้ง และมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนใจไปใช้สินค้าของคู่แข่ง ดังนั้นการมีธุรกิจมีลูกค้าประจำ สะท้อนให้เห็นว่า สินค้าของเราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนจัดการในการพัฒนาสินค้าหใ้ดีมากยิ่งขึ้น หรือเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ให้ธุรกิจได้ต่อไป
2. มีการซื้อซ้ำบ่อยครั้ง สร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง
แทนที่จะขายครั้งเดียวแล้วจบ จะดีกว่าใหม่ถ้าธุรกิจเราสามารถขายสินค้าหรือบริการได้อย่างต่อเนื่อง กับลูกค้าขาประจำ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่สร้างยอดขายหลักให้กับธุรกิจของเราเลยก็ว่าได้ ตราบใดที่ธุรกิจมีแนวทางกลยุทธ์ที่ดีและมีสิ่งกระตุ้นความสนใจที่เหมาะสมให้กับลูกค้ากลุ่มนี้อยู่เสมอ เช่น มีระบบสะสมแต้ม มีคูปองส่วนลด หรือมีสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ จากการสมัครเป็นสมาชิกกับร้านค้า เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าธุรกิจสามารถสร้างลูกค้าประจำ ให้เขากลับมาซื้อซ้ำได้ ไม่เพียงแต่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่รวมไปถึงการที่ช่วยทำให้สินค้าหน้าร้านหรือแพ็กเกจการบริการต่าง ๆ ของเราถูกขายออกไปได้เยอะขึ้น ธุรกิจสามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างคล่องตัวและมีโอกาสในการนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อกระตุ้นยอดขายหน้าร้านเพิ่มได้ เป็นอย่างดี
3. เกิดการบอกต่อ สร้างการรับรู้ที่ดีต่อธุรกิจ
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการมีลูกค้าประจำก็คือ เมื่อลูกค้ากลุ่มนี้มีความภักดีต่อแบรนด์มาก ๆ หากใช้สินค้าหรือบริการแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี ส่วนใหญ่ก็จะมีการบอกต่อให้เพื่อนหรือคนรู้จัก คนใกล้ชิด ได้รู้จักธุรกิจ สินค้าและบริการของเรา ถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จักต่อในวงกว้าง โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินลงทุนจำนวนมากอีกต่อไป ซึ่งวิธีในการบอกต่อก็มีหลากหลายรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและบริการของธุรกิจนั้นๆ และกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจใช้ เช่น เมื่อมีการแนะนำเพื่อน ผู้แนะนำจะได้รับ Cashback มูลค่า 500 บาท หรือแคมเปญ Friend get friends หรือเพื่อนชวนเพื่อน ซึ่งใน Pointspot ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการชวนเพื่อนมาเป็นสมาชิกของธุรกิจได้ และทั้งเพื่อนและเราเองก็จะได้รับพอยท์ตามเงื่อนไขที่ร้านค้ากำหนด เป็นต้น
คราวนี้คงเห็นกันแล้วว่า การมีลูกค้าประจำสำหรับธุรกิจ นั้นมีคววามสำคัญและข้อดีหลายอย่างที่เป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมการดำเนินไปของธุรกิจ ดังนั้น เพื่อให้หลาย ๆ ได้เข้าใจความสำคัญของลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้น เราลองมาดูวิธีเพิ่มลูกค้าประจำให้ เพื่อสร้างการซื้อซ้ำแบบได้ผลกันค่ะ
6 วิธี เพิ่มลูกค้าประจำ สร้างการซื้อซ้ำแบบได้ผล
อยากเพิ่มลูกค้าประจำให้มากกว่าเดิม พร้อมสร้างโอกาสการซื้อซ้ำให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างต่อเนื่อง สามารถทำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มาฝากกัน ที่ทำตามแล้ว ลูกค้าประจำมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
1. ธุรกิจต้องรู้จักลูกค้าก่อน ข้อมูลทางประชากร พฤติกรรมการซื้อต่าง ๆ
การที่เราจะเพิ่มลูกค้าประจำให้กลับมาซื้อสินค้าซ้ำได้นั้น เราต้องรู้ก่อนว่า ลูกค้าประจำของเรานั้นเป็นใคร มีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร ใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อนานแค่ไหน ลูกค้าแบบไหนที่ซื้อสินค้าเราบ่อย หรือซื้อต่อครั้งในจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้เราได้รู้จักลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ปรับกลยุทธ์ที่สามารถพิชิตใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้
หากธุรกิจมีการเก็บข้อมูลลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าไว้อย่างเป็นระบบ ก็จะสามารถรู้ข้อมูลสำคัญตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย อย่างเช่น ระบบของ Pointspot ที่เป็นระบบสะสมแต้มให้กับลูกค้าประจำ ที่สมัครสมาชิก ทำการแลกพอยท์ ใช้คูปองในการแลกซื้อสินค้าของเรา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ระบบก็จะช่วยบันทึกข้อมูล และพฤติกรรมการซื้อไปโดยอัตโนมัติ เมื่อเรากลับมาย้อนดูประวัติการทำรายการ หรือข้อมูลลูกค้าต่าง ๆ ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
และอย่างเช่น ฟีเจอร์ “รายงาน” ของ Pointspot เราสามารถดูข้อมูลลูกค้าของเราได้ในหลาย ๆ มุม เช่น เรื่องข้อมูลประชากร ถ้าเราอยากรู้ว่าลูกค้าประจำของเราส่วนใหญ่เป็นเพศอะไร อายุเท่าไหร่ที่ซื้อสินค้าเราเยอะสุด ก็สามารถดูข้อมูลอินไซท์ตรงนี้ได้เลย แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปปรับกลยุทธ์ทางการตลาดได้ต่อไปอย่างแม่นยำ
2. ใช้ระบบสะสมแต้ม Pointspot
Pointspot หรือระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เป็นเครื่องมือทำ Loyalty Program ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ตั้งแต่ช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้าคนสำคัญหรือสมาชิกของธุรกิจเอาไว้อย่างเป็นระบบ ทำให้ธุรกิจได้รู้จักลูกค้าในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อที่ธุรกิจจะได้สามารถนำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษให้กลุ่มลูกค้านั้น ๆ ได้ รวมถึงสามารถรู้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น มีเทคนิคในการเข้าหาลูกค้าอย่างเหมาะสม ซึ่งวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจได้ข้อมูลลูกค้าก็คือ การใช้ระบบสะสมแต้มนั่นเอง ที่จะมีการสมัครสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจก็ได้มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย และยังมีฟีเจอร์ที่กระตุ้นการซื้อซ้ำ เช่น การส่งพอยท์ คูปอง ของรางวัล บัตรกำนัล เป็นต้น
3. ทำการตลาดให้ตรงกลุ่มลูกค้าแต่ละ Segment
ลูกค้าประจำ มีหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มนั้น ธุรกิจก็จะใช้วิธีการขายหรือการเข้าถึงด้วยข้อความที่แตกต่างกัน แต่ปัญหาใหญ่ของธุรกิจในปัจจุบันซึ่งเป็นโลกของ Data คือการที่มีรายชื่อลูกค้าจำนวนมาก แต่ก็คัดแยกได้ยากว่า ใครเป็นลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง และควรแบ่งด้วยคุณลักษณะใดเป็นหลัก ที่จะสามารถตอบโจทย์กับการเพิ่มยอดขายของธุรกิจให้ได้มากที่สุด ถือเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ แต่แอดมินก็เสียเวลาในการทำข้อมูลตรงนี้อย่างมากด้วยเช่นกัน
แต่ปัญหานี้จะหมดไป และช่วยให้คุณทำการตลาดได้ตรงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Pointspot ที่มีฟีเจอร์ RFM Analysis ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและแบ่งกลุ่มโดยอิงจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ โดยจะวิเคราะห์จากข้อมูล 3 อย่างร่วมกัน ดังนี้
- R (Recency) คือ ระยะเวลาที่ลูกค้ามาใช้บริการครั้งสุดท้าย ล่าสุดเมื่อไหร่ (ระบบจะนับเป็นรูปแบบเดือน)
- F (Frequency) คือ ความถี่ที่ลูกค้ามาใช้บริการ
- M (Monetary) คือ จำนวนเงินทั้งหมดที่ลูกค้าใช้จ่าย
หลังจากนั้นระบบก็จะแบ่งกลุ่มลูกค้าออกมาเป็น 10 กลุ่ม ดังนี้
1. Champions = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนมากที่สุด และมีการใช้บริการธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
2. Loyal Customers = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนมากถึงมากที่สุด และมีการใช้บริการธุรกิจบ่อยครั้ง
3. Potential loyal list = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนปานกลางถึงน้อย และมีการใช้บริการธุรกิจค่อนข้างบ่อยครั้ง
4. New Customers = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนน้อยที่สุด และเพิ่งเริ่มมีการใช้บริการในธุรกิจ
5. Promise = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนน้อยที่สุด และมีการใช้บริการในธุรกิจบ่อยครั้ง
6. Need Attention = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนปานกลาง แต่เริ่มใช้บริการของธุรกิจลดลง
7. About to Sleep = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนน้อยถึงน้อยที่สุด และเริ่มใช้บริการของธุรกิจลดลง
8. Can’t Lose Them = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนมากถึงมากที่สุด แต่ไม่กลับมาใช้บริการของธุรกิจ
9. At Risk = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนปานกลางถึงมาก แต่ไม่กลับมาใช้บริการของธุรกิจ
10. Hibernating = สมาชิกที่มีพอยท์จำนวนน้อยที่สุด และไม่กลับมาใช้บริการของธุรกิจ
เมื่อเราคลิกเข้าไปในชาร์ตแผนภาพ ก็จะมีข้อมูลต่าง ๆ ของสมาชิกแสดง ดังนี้ ID, ชื่อสมาชิก ระยะเวลาที่เข้ามาใช้บริการครั้งสุดท้าย จำนวนครั้งที่ได้รับพอยท์ รวมถึงช่วงเวลาที่ได้รับพอยท์ ซึ่งการแบ่ง Segment พร้อมข้อมูลรายละเอียด จะช่วยให้เรารู้ว่าควรเน้นการตลาดไปที่กลุ่มใดก่อน และควรใช้วิธีอะไรที่จะดึงให้เขากลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง
4. การบริการที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะพนักงานหน้าร้านที่จะเป็นคนผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรก
การจะเปลี่ยนสถานะจากลูกค้าทั่วไปมาเป็นลูกค้าประจำได้นั้น First Impression เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราสามารถทำให้ลูกค้าประทับใจได้ตั้งแต่ครั้งแรก ก็เท่ากับว่าซื้อใจลูกค้าไปได้กว่า 80% แล้ว ซึ่งพนักงานหน้าร้าน จะเป็นคนที่มีบทบาทช่วยสร้างความประทับใจได้มากที่สุด แต่หลายคนก็น่าจะเกิดคำถามว่า แล้วมีวิธีอื่นๆ ใหม่ที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ตั้งแต่แรกพบ จริงๆ แล้ว มีหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวทักทายอย่างสุภาพ ให้ข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียด รับฟังปัญหาของลูกค้า พร้อมนำเสนอสินค้าที่คุ้มค่าที่สุดให้ แต่มีหนึ่งวิธีที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ การมอบส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าทันทีตั้งแต่ก้าวเข้ามาได้ร้าน ซึ่ง Pointspot สามารถทำได้ค่ะ
โดยมีฟีเจอร์สร้าง “คูปองต้อนรับ” ที่เราสามารถตกแต่งได้เองอย่างสวยง่าย พร้อมใส่โปรโมชั่นส่วนลดได้เอง ทันทีที่ลูกค้าเข้ามาในร้าน ก็ให้พนักงานหน้าร้านแนะนำถึงสิทธิพิเศษในการสมัครสมาชิก พร้อมนำเสนอคูปองต้อนรับให้ลูกค้า จะน่าประทับใจแค่ไหน แค่สมัครสมาชิกโดยยังไม่ได้ซื้ออะไรไป ก็ได้ส่วนลดไปแล้ว วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ ด้วยคูปองที่เราให้ไปค่ะ
5. ธุรกิจต้องมีแนวคิดในการพัฒนาสินค้า บริการอยู่เสมอ เพื่อให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
หากเราอยากเพิ่มฐานลูกค้าประจำ นอกจากโปรโมชั่นที่โดนใจแล้ว ตัวสินค้าหรือบริการของเราก็ต้องมีคุณภาพ และโดดเด่นกว่าคู่แข่งด้วย ซึ่งระบบสะสมแต้มลูกค้า ก็เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยให้รู้อินไซท์ของสินค้าหรือบริการของธุรกิจเราด้วยเช่นกัน อย่างระบบ Pointspot จะมีฟีเจอร์รายงานสินค้าที่มีการส่งพอยท์ให้ลูกค้าและการใช้พอยท์ของลูกค้า ก็จะทำให้ธุรกิจรู้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ต่อว่าจะพัฒนาสินค้าที่ขายดีไปในทิศทางใด หรือกระตุ้นสินค้าที่ขายไม่ดีด้วยโปรโมชั่นอะไร เป็นต้น
โดยระบบจะมีการแบ่งสินค้าตาม SKU ระบุชื่อสินค้า พร้อมจัดหมวดหมู่ และมีข้อมูลบอกด้วยว่า มีสมาชิกที่ได้พอยท์ไปแล้วกี่คน ใช้พอยท์ไปทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะสะท้อนถึงข้อมูลการซื้อซ้ำของลูกค้าได้ค่ะ เช่น สินค้าไหนที่มีการส่งพอยท์ไปเยอะ แต่กลับไม่มีลูกค้าคนไหนกลับมาใช้เลย ก็อาจจะพอสันนิษฐานได้ว่า สินค้านั้นอาจมีปัญหาอะไรบางอย่างที่ลูกค้ารู้สึกยังไม่ประทับใจมากพอที่จะซื้อซ้ำ พอเรารู้ข้อมูลตรงนี้แล้วก็จะช่วยให้เราไปหาคำตอบเพิ่มเติม อาจจะเป็นการสำรวจ วิเคราะห์ตัวสินค้า หรือไปสอบถามลูกค้าเพิ่มเติม เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นและตอบโจทย์ลูกค้าต่อไป
6. พร้อมในการแก้ไข ปรับปรุงข้อเสนอแนะหรือ Feedback จากลูกค้าอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเพิ่มฐานลูกค้าประจำคือ การฟังเสียงของลูกค้าอยู่เสมอ อย่าลืมว่าเมื่อลูกค้ามีการซื้อกับเราบ่อย ๆ ก็ย่อมคาดหวังในการบริการที่ดีขึ้น ได้รับการดูแลแนะนำจากเราที่มากขึ้น ดังนั้น เราสามารถสอบถามความคิดเห็นลูกค้าที่เดินเข้ามาทางหน้าร้านก็ได้ หรือมีวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่านั้นก็คือ ถามความคิดเห็นของลูกค้าผ่าน Pointspot โดยใช้ฟีเจอร์ สำรวจความพึงพอใจและความคิดเห็น
ทันทีที่พอยส์ถูกส่งไปทาง SMS ของลูกค้า จะมีลิงก์ที่ลูกค้าสามารถกดเข้าไปรีวิวพร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจของเรา โดยมีการเลือกรูปดาวเพื่อให้คะแนน และมีช่องให้เขียนความคิดเห็นเพิ่มเติม ซึ่งเราจะได้ข้อมูลในส่วนนี้จากลูกค้าตัวจริงมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีและมีคุณภาพมากขึ้นต่อไป
สรุป
การรักษาฐานลูกค้าประจำ ให้มีการซื้อซ้ำอย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างกำไรให้กับธุรกิจ โดยไม่ต้องเสียต้นทุนที่สูงมากเกินความจำเป็น ถึงแม้ว่าการขายสินค้าให้กับลูกค้าประจำนั้นง่ายกว่าการออกไปหาลูกค้ารายใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช้เครื่องมือใดใดในการโน้มน้าวลูกค้าเลย ดังนั้นเคล็ดลับวิธี 6 ข้อง่ายๆ ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ จะช่วยธุรกิจในการพิชิตใจลูกค้าประจำ ให้เขาอยู่กับเราไปได้อย่างยาวนาน และกลยุทธ์ในการทำ Loyalty Program เพื่อพิชิตใจลูกค้าประจำนี้ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ที่มีคุณสมบัติและฟีเจอร์การใช้งานที่ครบถ้วน ช่วยให้ธุรกิจซื้อใจลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจของคุณก้าวไกลและเติบโตขึ้นกว่าเดิม
สมัครใช้งานฟรี! Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร
หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน Pointspot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!