5 กลยุทธ์ จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายแบรนด์เสื้อผ้า ด้วยระบบสะสมแต้ม

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• 1. การโปรโมทระบบสะสมแต้ม
• 2. การสร้างระดับสมาชิกและสิทธิประโยชน์
• 3. การจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการสะสมแต้มการใช้โซเชียลมีเดีย
  • โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกส่วนลด
  • โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกสินค้า
  • โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกบริการพิเศษ
  • โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษอื่น ๆ
  • โปรโมชั่นสะสมแต้มร่วมกับพันธมิตร
• 4. การใช้โซเชียลมีเดีย
• 5. การจัดกิจกรรมและแคมเปญพิเศษ
• สรุป
  

1. โปรโมทระบบสะสมแต้ม

เริ่มต้นด้วยการแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนว่า แบรนด์เสื้อผ้าของคุณนั้นมีระบบสะสมแต้ม และระบบสะสมแต้มดีกับลูกค้ายังไง ผ่านช่องทางการสื่อต่างๆ เช่น LINE OA Fanpage Instagram หรือ หน้าร้าน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกก่อนทำการสั่งซื้อเสื้อผ้ากับทางแบรนด์ เพราะทุกการสั่งซื้อสามารถนำมาสะสมแต้มเพื่อเอาไว้ใช้แลกสิทธิพิเศษ ของรางวัลได้ในภายหลัง ทางแบรนด์เองก็ได้เก็บข้อมูลของลูกค้า ซึ่งสิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือ เตรียมข้อมูลให้ลูกค้าได้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจน เช่น ซื้อครบกี่บาทจะได้รับ 1 แต้ม มีระดับสมาชิกอะไรบ้าง สิทธิพิเศษในแต่ละระดับสมาชิก รายละเอียดสิทธิพิเศษ เงื่อนไขการแลกรับสิทธิพิเศษ เป็นต้น

2. การสร้างระดับสมาชิกและสิทธิประโยชน์

ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างคุณค่าให้กับระบบสะสมแต้ม (Loyalty Program) ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่น ส่วนลด หรือของรางวัลต่าง ๆ ตาม ระดับบัตรสมาชิก (Tiered Member Card) ยิ่งลูกค้าสะสมแต้มในระดับสูงมากเท่าไหร่ ลูกค้ายิ่งได้รับสิทธิพิเศษที่มากขึ้นตามเท่านั้น ซึ่งการใช้ระบบบัตรสมาชิกแบบแบ่งระดับ จะช่วยให้แบรนด์สามารถจัดประเภทลูกค้าเป็นกลุ่มต่าง ๆ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งแบรนด์เองก็ได้ทราบถึง Value Customer ตามระดับของสมาชิกอีกด้วย

ตัวอย่างการตั้งค่าแบ่งระดับสมาชิก เพื่อรับส่วนลด สำหรับการซื้อสินค้า

• ระดับ Basic Member รับส่วนลด 10%
• ระดับ Gold Member รับส่วนลด 15%
• ระดับ Platinum Member รับส่วนลด 20%

นอกจากนี้ การมี ระบบบัตรสมาชิกอัตโนมัติ เพื่อช่วยธุรกิจในการอัพเกรดระดับลูกค้าอัตโนมัติ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแบรนด์ที่ต้องการออกบัตรสมาชิกให้ลูกค้าคนพิเศษ ซึ่ง Pointspot มีฟีเจอร์ปรับระดับบัตรสมาชิกอัตโนมัติ โดยจะเป็นการออกบัตรสมาชิกให้ลูกค้าอัตโนมัติเมื่อซื้อสินค้าและสะสมพอยท์ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ ซึ่งแอดมินไม่ต้องมากดส่งให้ทีละคน จึงทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

ตัวอย่างการตั้งค่า การอัพเกรดระดับสมาชิกอัตโนมัติ เมื่อลูกค้าสะสมแต้มถึงระดับที่กำหนดระบบจะอัพเกรดระดับให้ทันที

• ระดับ Basic (สะสมแต้ม 99-499 แต้ม)
• ระดับ Gold (สะสมแต้ม 500-999 แต้ม)
• ระดับ Platinum (สะสมแต้มมากกว่า 1,000 แต้ม)

3. การจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการสะสมแต้ม

เมื่อแบรนด์มีการโปรโมทระบบสะสมแต้ม และมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้เหมาะสมกับสมาชิกในแต่ละระดับแล้ว การจัดโปรโมชั่นให้เหมาะสมกับสมาชิกในแต่ละระดับก็สำคัญเช่นกัน เพราะสามารถดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการซ้ำได้ ซึ่งการมีระบบสะสมแต้มที่ฟีมีเจอร์สร้างของรางวัล และคูปองต่าง ๆ ให้แบรนด์เลือกใช้ อย่าง Pointspot ก็จะช่วยให้การจัดโปรโมชั่นของแบรนด์ทำได้ง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายมากขึ้น มาดูตัวอย่างการจัดโปรโมชั่น และการตั้งค่าคูปองด้วยระบบสะสมแต้มกันค่ะ โดยจะยกตัวอย่างเป็นธุรกิจเสื้อผ้า แบรนด์ Bestcloth ที่ลูกค้าจะได้รับ 1 พอยท์ ในทุกยอดค่าใช้จ่าย 10 บาท

โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกส่วนลด

เป็นประเภทโปรโมชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ลูกค้าสามารถสะสมแต้มจากการซื้อสินค้าหรือบริการ เมื่อสะสมแต้มครบตามที่กำหนด ก็สามารถแลกส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าครั้งถัดไปได้ โปรโมชั่นนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำมากขึ้น เช่น ลูกค้าสามารถแลก 300 พอยท์ เพื่อรับส่วนลด 150 บาท

โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกสินค้า

เป็นโปรโมชั่นที่มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยลูกค้าสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกสินค้าหรือของรางวัลต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น โปรโมชั่นนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ และกระตุ้นให้ลูกค้าเดิม ให้กลับมาซื้อสินค้าอื่น ๆ ของแบรนด์มากขึ้น โดยการสร้างของรางวัลสะสมแต้ม ให้ลูกค้ามาแลก 490 พอยท์ เพื่อแลกรับเสื้อเชิ๊ต Greenery มูลค่า 490 บาท

โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกบริการพิเศษ

เป็นโปรโมชั่นที่มอบสิทธิพิเศษเฉพาะให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกระดับ Platinum เป็นการกระตุ้นให้สมาชิกอยากขยับระดับสมาชิกของตัวเอง เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษที่มากขึ้น เช่น บริการจัดส่งฟรี บริการเปลี่ยนสินค้าฟรี บริการซ่อมแซมฟรี โดยการมอบคูปองโปรโมชั่นนี้ จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ เช่น การสร้างของรางวัลแจกฟรี บริการส่งฟรี เมื่อซื้อครบ 1,000 บาท สำหรับ Platinum Member

ในกรณีที่แบรนด์อยากมอบสิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่ม แบรนด์สามารถตั้งค่าให้คูปองสิทธิพิเศษนี้ แสดงให้แค่สมาชิก Platinum เห็นเท่านั้น ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งแบรนด์สามารถจำกัดจำนวนการแลกรับของรางวัลได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้การจัดโปรโมชั่นนั้นตรงกลุ่ม คุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งแบรนด์เอง และสมาชิก

โปรโมชั่นสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษอื่น ๆ

นอกจากของรางวัลและส่วนลดเสื้อผ้าแล้ว ธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้ายังสามารถมอบสิทธิพิเศษอื่น ๆ ให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก เช่น มอบสิทธิร่วมกิจกรรมพิเศษกับแบรนด์ ส่วนลดโรงแรม หรือ สิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ และเพิ่มความน่าสนใจให้กับสมาชิกมากขึ้น ยกตัวอย่าง แบรนด์อาจมอบคูปองส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับการทำสีเล็บเจลให้สมาชิก

โปรโมชั่นสะสมแต้มร่วมกับพันธมิตร

ธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าสามารถร่วมมือกับพันธมิตรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์เสื้อผ้า เพื่อจัดโปรโมชั่นสะสมแต้มร่วมกัน เช่น ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจแครื่องประดับ ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าจากพันธมิตร มาซื้อสินค้าของแบรนด์เสื้อผ้านั่นเอง เช่น สมาชิกสามารถกดรับคูปองส่วนลด 10% สำหรับซื้อเครื่องประดับ Warner & Spencer ได้ทันที

4. การใช้โซเชียลมีเดีย

นอกจากการจัดโปรโมชั่นให้น่าดึงดูดแล้ว การเลือกช่องทางการโปรโมทโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ของระบบสะสมแต้ม จะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับลูกค้าที่ติดตามและรับข้อมูลจากแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของแบรนด์ได้หลากหลายวิธี ยกตัวอย่าง ดังนี้

• โพสต์รูปภาพหรือวิดีโอเสื้อผ้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่น เช่น โพสต์รูปภาพสินค้าคอลเลคชั่นใหม่พร้อมส่วนลด 10% สำหรับสมาชิกที่สะสมแต้มครบ 1,000 แต้ม โดยระบุรายละเอียดของสินค้าและเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรโมชั่นอย่างชัดเจน
  
  
• เขียนบทความหรืออัปเดตโปรโมชั่น เช่น เขียนบทความแนะนำวิธีการสะสมแต้มและแลกรับสิทธิพิเศษ โดยอธิบายรายละเอียดของโปรโมชั่นอย่างครบถ้วน
  
  
• จัดกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม เช่น กิจกรรมบน Instagram แจกรางวัลเสื้อ Limited Edition ฟรี สำหรับสมาชิกที่ร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดของคอลเลคชั่นดังกล่าว เช่น แรงบันดาลใจของคอลเลคชั่นนี้ ใครคือผู้ออกแบบ ความหมายของชื่อคอลเลคชั่น เป็นต้น

5. การจัดกิจกรรมและแคมเปญพิเศษ

การจัดกิจกรรมและแคมเปญพิเศษในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ด้วยระบบสะสมแต้ม ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความสนใจให้กับการซื้อสินค้าของลูกค้า โดยแบรนด์เสื้อผ้าสามารถจัดกิจกรรมและแคมเปญพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร่วมสะสมแต้มและแลกรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น

• จัดกิจกรรมแจกกระเป๋าถือฟรีสำหรับสมาชิกที่สะสมแต้มครบ 1,000 แต้มในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยกำหนดระยะเวลาของกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
  
  
• จัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยกำหนดธีมเป็น “New Year, New Look” และเชิญอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาร่วมเดินแบบในคอลเลกชันใหม่ของแบรนด์
  
  
• จัดกิจกรรม “Wheel of Points” หมุนวงล้อลุ้นคะแนน สำหรับสมาชิกที่มีการซื้อเสื้อผ้าครบ 50 พอยท์ ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ โดยกำหนดระยะเวลาของกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

• จัดกิจกรรมลดราคาสินค้า 50% สำหรับสมาชิกที่สะสมแต้มครบ 1,000 แต้มในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกำหนดระยะเวลาของกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 17 เมษายน 2567

สรุป

นอกจากการจัดโปรโมชั่นให้ดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อเสื้อผ้ากับแบรนด์นั้นอาจไม่เพียงพอ ในยุคนี้แบรนด์ควรมอบประสบการณ์หลังการขายที่มีความพิเศษ คุ้มค่า มากกว่าแบรนด์เสื้อผ้าอื่น ๆ เพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าเก่า และดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามาซื้อเสื้อผ้ากับแบรนด์ด้วย ซึ่งการออกแบบโปรแกรมสะสมแต้ม ให้สามารถมอบประสบการณ์การสะสมแต้มให้ตรงความต้องการของลูกค้า จะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจเสื้อผ้าเติบโตและแข็งแกร่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้ระบบสะสมแต้มที่มีฟีเจอร์คลอบคลุมการใช้งานของธุรกิจ เราขอแนะนำ Pointspot ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่น บัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!