แนะนำ 9 วิธีใช้ Loyalty Program อย่างไรไม่ให้ล้มเหลว

1. กำหนดเงื่อนไขการแลกของรางวัลที่สมเหตุสมผล

เพราะวัตถุประสงค์หลักในการเข้าร่วมโปรแกรมความภักดีของลูกค้า คือ ของรางวัล ความคุ้มค่า และสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ที่ลูกค้าควรเป็นฝ่ายเลือกได้ ดังนั้นหากเงื่อนไขในการร่วมกิจกรรมมีความยากเกินไป ไม่สมเหตุสมผล รวมถึงของรางวัลที่ธุรกิจกำหนดไม่ตรงกับความต้องการของฐานลูกค้าหลัก ก็อาจทำให้ Loyalty Program ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้านัก

วิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ ก็คือ ธุรกิจเพียงแค่พิจารณาดูเงื่อนไขที่ถูกกำหนดให้ใช้งานในโปรแกรมความภักดีว่า มีจำนวนครั้งที่ลูกค้าต้องทำธุรกรรมหรือจำนวนของยอดการใช้จ่ายที่ต้องสะสมเพื่อแลกรางวัลนั้นสูงเกินไปหรือไม่ เมื่อเทียบกับปริมาณที่เหมาะสมที่ลูกค้าต้องซื้อสินค้าและบริการของธุรกิจ ซึ่งหากธุรกิจมีการลดเงื่อนไขให้มีความง่ายขึ้นแล้ว แต่ลูกค้าอาจยังไม่มีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรมมากนัก อาจต้องพิจารณาเกี่ยวกับของรางวัลว่ายังไม่เป็นที่น่าดึงดูดลูกค้าหรือไม่ โปรโมชั่นเอาใจลูกค้าได้จริง  และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เหลือต่อไปด้วย

2. โปรโมทโปรแกรมความภักดีให้เป็นที่รู้จัก

ไม่ว่าจะมีเงื่อนไขการเข้าร่วม Loyalty Program ที่ง่าย น่าสนใจ และของรางวัลที่คุ้มค่ามากเพียงใด แต่หากธุรกิจไม่ทำการโปรโมทแคมเปญกิจกรรมให้เป็นที่รู้จัก ก็อาจทำให้เจอกับความล้มเหลวได้ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจสามารถโปรโมทกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงแคมเปญการตลาดด้วยช่องทางที่หลากหลายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น

• จัดทำหน้าเว็บไซต์หรือ Landing Page อธิบายขั้นตอนในการเข้าร่วมกิจกรรม

• ส่งอีเมล Newsletter แจ้งเป็นจดหมายข่าวแนะนำกิจกรรมให้ลูกค้า หากคุณมีอีเมลฐานลูกค้าอยู่ในมือ

• โพสต์ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนบน Social Media ของธุรกิจ

• ติดป้ายแนะนำ ในกรณีที่ธุรกิจมีหน้าร้าน ก็สามารถใช้วิธีพิมพ์ป้ายแนะนำ รวมถึงจัดอบรมให้ข้อมูลแก่พนักงานที่มีส่วนในการบริการลูกค้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงช่วยแนะนำแก่ลูกค้าได้

• ส่ง SMS แจ้งข้อมูลประชาสัมพันธ์แคมเปญ ส่งตรงไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน

3. ใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการเชิญชวนลูกค้าเข้ามาร่วม Loyalty Program จะทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับลูกค้า ทั้งข้อมูลส่วนตัวสำหรับการติดต่อกลับในช่องทางต่าง ๆ ตลอดจนเมื่อลูกค้ามีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับธุรกิจแล้ว ก็จะได้ข้อมูลเชิงลึก ที่มีความสำคัญต่อการนำไปใช้ในด้านการปรับปรุง พัฒนา ต่อยอดธุรกิจได้ เช่น ลูกค้ามีความถี่ในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการเพียงใด ผลิตภัณฑ์ใดที่ได้รับความนิยม ฯลฯ

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยธุรกิจในการแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามระดับความสัมพันธ์ ทำให้ธุรกิจสามารถทำการตลาด จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า หรือสื่อสารข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกัน เช่น การส่งคูปองโปรโมชั่นเป็นส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าที่ลูกค้าชื่นชอบ หรือแม้แต่การมอบสิทธิพิเศษด้วย Loyalty Program ให้ลูกค้าในเดือนเกิด เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เฉพาะเจาะจง ตรงความต้องการ และเพิ่มความพึงพอใจที่ลูกค้าจะมีต่อธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้นจนอยากลับมาซื้อซ้ำอยู่เสมอได้ แต่อย่างไรก็ตาม กิจกรรมต่าง ๆ ที่ธุรกิจจะทำเพื่อสร้างความภักดีนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการใช้งานข้อมูลลูกค้าความถูกต้อง และไม่เป็นการรบกวนหรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วย

4. สิทธิประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้าต้องมีความหลากหลาย

การผสมผสานของรางวัลและสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย ทั้งรางวัลใหญ่และรางวัลย่อย จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะได้รับรางวัลจากการเข้าร่วม Loyalty Program ได้มากขึ้น จึงเป็นอีกวิธีที่จะทำให้ Loyalty Program ของธุรกิจไม่เงียบเหงา

ตัวอย่างเช่น การที่ธุรกิจมอบของรางวัลเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ให้เป็นสิทธิประโยชน์หลักของ Loyalty Program แต่ก็อาจมีรางวัลอื่น ๆ จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาธุรกิจ เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเลือกของรางวัลที่ต้องการได้อย่างอิสระ เช่น การแลกรับสินค้าบางชนิดฟรี หรือแม้แต่การให้รางวัลที่ไม่ได้เป็นวัตถุจับต้องได้ อย่างเช่น บริการจัดส่งสินค้าแบบฟรีค่าขนส่ง เป็นต้น ก็ล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาร่วมโปรแกรมความภักดีได้ทั้งสิ้น

5. ทำขั้นตอนการร่วมโปรแกรมความภักดีให้เรียบง่าย

คำว่าเรียบง่ายในที่นี้ ครอบคลุมทั้งส่วนของเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่เลือกใช้ ตั้งแต่หน้าจอ หรือ อินเทอร์เฟซในการแสดงผลข้อมูลแก่ผู้ใช้ จะต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ถัดมาคือในส่วนของข้อความที่สื่อสารไปยังลูกค้าก็ควรมีความตรงไปตรงมา เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันทีว่าโปรแกรมความภักดีที่จะเข้าร่วมนั้นทำงานอย่างไร เช่น ซื้อครบทุก 100 บาท รับ 10 พอยท์ หรือ ซื้อเครื่องดื่มครบ 10 แก้ว รับฟรี 1 แก้ว เป็นต้น ด้วยความชัดเจนนี้จะเป็นหัวใจหลักที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและจูงใจให้สนในใน Loyalty Program ของธุรกิจได้ทันที ตลอดจนในแง่ของการดำเนินการของธุรกิจที่เรียบง่าย โปร่งใส ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่ดีที่ลูกค้ามีต่อธุรกิจในระยะยาวได้ด้วย

6. ใส่ใจดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึงในทุกช่องทาง

แน่นอนว่าทุกวันนี้มีช่องทางมากมายที่ธุรกิจใช้ติดต่อกับลูกค้าได้อย่างหลากหลาย เพิ่มโอกาสในการขายและเชิญชวนให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมว่า ยิ่งธุรกิจเลือกใช้ช่องทางต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้ามากแค่ไหน ธุรกิจจะต้องสามารถตอบกลับและซัพพอร์ตลูกค้าในทุกช่องทางที่ใช้งานให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างหรือข้อบกพร่องในการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจ และในการจัดกิจกรรม Loyalty Program ก็เช่นกัน ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อผ่านหน้าร้านแบบออฟไลน์ โทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น อีเมล แชท กรอกแบบฟอร์มติดต่อกลับบนหน้าเว็บไซต์ ธุรกิจก็จำเป็นต้องดูแลและให้สิทธิ์ลูกค้าในการร่วมกิจกรรมอย่างครอบคลุม เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าโดนเอาเปรียบจากธุรกิจ และยิ่งได้รับโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าที่มีความคุ้มค่า ก็ยิ่งอยากที่จะกลับมาอุดหนุนธุรกิจต่อไปเรื่อย ๆ

7. สร้างความตื่นเต้นด้วยกิจกรรมและเกมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับ Loyalty Program

อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้กิจกรรมในโปรแกรมความภักดีมีสีสันพร้อมช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น คือ gamification หรือการนำเกมต่าง ๆ เข้ามาสร้างความสนุกสนานและน่าสนใจมากขึ้น สำหรับธุรกิจที่ใช้เครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ ก็อาจมีเกมที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสร้าง และธุรกิจสามารถเลือกเปิดให้ลูกค้าและสมาชิกเข้ามาร่วมสนุกเพื่อรับรางวัลพิเศษเพิ่มเติมได้ทันที

แต่หากระบบที่คุณใช้ไม่ได้มีฟังก์ชันที่รองรับการทำ gamification ให้กับลูกค้าได้เล่นโดยตรง ธุรกิจอาจจัดแคมเปญกิจกรรมร่วมสนุกบน Social Media แล้วค่อยสุ่มเลือกผู้โชคดีเพื่อรับของรางวัลพิเศษใน Loyalty Program เพิ่มเติมได้เช่นกัน

8. ไม่กลัวที่จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

เพราะความต้องการของลูกค้ามักเปลี่ยนไปตามเทรนด์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบในวันนี้ อาจไม่เป็นที่นิยมเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ดังนั้นเพื่อให้โปรแกรมความภักดีมีความสดใหม่ เป็นที่พึงพอใจของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ธุรกิจจำเป็นต้องจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดส่วนใหญ่ ว่าลูกค้ามีความต้องการเป็นไปในทิศทางใด ตลอดจนหมั่นตรวจสอบโปรแกรมความภักดีของธุรกิจเองว่ามีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร เพื่อให้มันใจว่ายังคงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 9. เปิดใจให้กับ Loyalty Program แบบออนไลน์

ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ธุรกิจอาจเจอในการใช้งานโปรแกรมความภักดีแบบออฟไลน์นั้น จะถูกทลายไปด้วยการใช้งานเครื่องมือ Loyalty Program แบบออนไลน์ ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตใหม่ของคนในยุคดิจิทัล เพราะปัจจุบันแค่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ก็สามารถช่วยเปิดโลกทัศน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัดในด้านข้อมูล เวลา และระยะทาง เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าใหม่จะเจอสินค้าและบริการของธุรกิจ และยังช่วยให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำได้อย่างสะดวก นอกจากนี้แพลตฟอร์ม Loyalty Program แบบออนไลน์ยังสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้ามาจัดทำเป็นรายงาน พร้อมให้ธุรกิจนำไปใช้วางแผนต่อยอดการให้บริการด้านต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย

และจากทั้ง 9 วิธีข้างต้น ลองมาดูว่า PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร และคูปองโปรโมชั่น ซึ่งมีฟีเจอร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการ Loyalty Program ของธุรกิจให้ปังและเข้าไปนั่งในใจลูกค้าทั้งใหม่และลูกค้าประจำได้อย่างไรบ้าง

• มีหลายฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายจากการซื้อซ้ำ พร้อมสร้างความภักดีไปในตัว ทั้งระบบบัตรสมาชิกออนไลน์ ระบบสะสมแต้มด้วยเบอร์โทรศัพท์ ระบบคูปองและบัตรกำนัลดิจิทัล ให้ธุรกิจประยุกต์ใช้ได้ตามต้องการ และยังเหมาะกับการประยุกต์ใช้ขายในทุกช่องทาง ไม่ว่าลูกค้าจะมาจากหน้าร้านแบบออฟไลน์ หรือซื้อขายบนช่องทางออนไลน์ ก็สามารถร่วมกิจกรรมได้ง่าย ๆ ไม่มีสะดุด

• ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์และดึงดูดลูกค้าให้เข้าร่วม ด้วยการใช้งานแบบออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ตรวจสอบข้อมูล และแลกสิทธิ์รับของรางวัลของตนเองได้ตลอดเวลา

และธุรกิจสามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ จากระบบ PointSpot เพื่อโปรโมทกิจกรรม เช่น โปสเตอร์ธุรกิจ ที่ธุรกิจเพียงอัพโหลดรูปโลโก้และภาพปก ก็พร้อมให้นำไปใช้เชิญชวนให้สมาชิกเข้าร่วมโปรแกรมความภักดีได้ง่าย ๆ ทั้งการนำไปโพสต์บนช่องทางออนไลน์ หรือหากมีหน้าร้านก็สามารถพิมพ์ออกมาตั้งประชาสัมพันธ์ในบริเวณร้าน และให้ลูกค้าสามารถสแกน QR Code เพื่อร่วมกิจกรรมใน Loyalty Program ได้อย่างสะดวก

หรืออีกหนึ่งฟีเจอร์อย่าง บรอดแคสต์ข้อความ ที่ธุรกิจสามารถส่ง SMS แจ้งข่าวสารหรือโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าและสมาชิกในระบบ PointSpot ตามกลุ่มที่ต้องการได้โดยตรง

• รู้จักและจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่แจ้งข้างต้นว่า ข้อมูลต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่เป็นเรื่องที่ธุรกิจด้านการใส่ใจในความปลอดภัยของข้อมูล ในส่วนของเงื่อนไขของการให้บริการและกิจกรรมก็ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และในระบบ PointSpot จึงมีฟีเจอร์เงื่อนไขการให้บริการ และ นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ธุรกิจสามารถกำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขการให้บริการที่ชัดเจน รวมถึงรองรับกับกฎหมาย PDPA หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย

• สร้างสีสันด้วยเกมวงล้อเพิ่มพอยท์ เป็นเกมในระบบ PointSpot ที่ธุรกิจสามารถเปิดใช้งาน เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้สมาชิกได้ลุ้นรับพอยท์เพิ่มเติมจากปกติในระบบสะสมแต้มได้โดยตรง

• มีรายงาน Customer Insight มากกว่า 10 ประเภท รายงานสถิติสำคัญต่าง ๆ แสดงผลในรูปแบบกราฟแบบเข้าใจง่าย ช่วยให้วิเคราะห์ธุรกิจได้ดีขึ้น รู้จักและเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมให้นำไปต่อยอด และวางแผนทำการตลาดได้อย่างแม่นยำขึ้น

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้การใช้งาน Loyalty Program ออนไลน์เป็นเรื่องง่าย พร้อมช่วยธุรกิจเพิ่มยอดขายจากผู้ซื้อขาประจำมากขึ้น โดย PointSpot มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ทุกธุรกิจสามารถใช้งานและสร้างประสบการณ์ เสริมความภักดีที่ลูกค้าจะมีต่อธุรกิจของท่านให้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองวันนี้ สมัครและเริ่มใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย

สมัครใช้งานฟรี! PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร

หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน PointSpot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program   อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!

Updated:  10 June 2021 | Written by: Ploynaphat Wattanachodjirachai