10 เทคนิค แบ่งกลุ่มลูกค้าด้วย RFM Analysis พิชิตยอดขายได้มากขึ้น

การทำ CRM Loyalty Program หรือที่มักเรียกกันว่าโปรแกรมความภักดีนั้น ช่วยให้ธุรกิจ นักการตลาด หรือแม้แต่นักขายได้ เข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งมากขึ้นในแง่มุมต่าง ๆ ที่ได้มาจากข้อมูลที่เก็บโดยระบบ CRM แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายความท้าทาย ที่ถึงแม้ธุรกิจจะมีข้อมูลของลูกค้าจำนวนมากมายอยู่ในมือ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถเข้าใจลูกค้าได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการจะคาดเดาพฤติกรรม ความชอบหรือความต้องการต่าง ๆ ที่เราก็ไม่อาจจะสามารถตัดสินเองได้ง่าย ๆ โดยไม่มีหลักการใด ๆ ประกอบนั่นเอง ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้นอย่างมีเหตุและผลที่ถูกต้อง การทำ Loyalty Program ด้วยระบบสะสมแต้มจึงต้องมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกมาให้ชัดเจน แต่ข้อมูลจำนวนมาก เราจะแบ่งกลุ่มลูกค้ามหาศาลออกมาได้อย่างไร วันนี้เรามีเทคนิคการใช้ RFM Analysis เข้ามาช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจสามารถพิชิตยอดขายได้มากขึ้น ไปติดตามได้ในบทความนี้ค่ะ 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

 

RFM Analysis คืออะไร ?

ก่อนอื่นเราขอพามาทำความรู้จัก RFM Analysis กันก่อนว่าคืออะไร? RFM Analysis คือ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ที่ใช้ในการกำหนดเชิงปริมาณตามพฤติกรรมการใช้บริการ เพื่อพิจารณาว่ากลุ่มลูกค้าไหนดีที่สุด และควรวางแผนเข้าไปทำการกระตุ้นการขายหรือทำการตลาดต่อไปให้เกิดยอดขายสูงสุด โดยระบบนี้จะวิเคราะห์จาก การซื้อครั้งล่าสุดของลูกค้า (Recency = ความใหม่) ความถี่ในการซื้อสินค้า (Frequency = ความถี่) และจำนวนเงินที่ลูกค้าใช้จ่าย (Monetary = การเงิน) โดยหลังจากระบบทำการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าตามหลัก RFM แล้ว จะทำการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 10 กลุ่ม และจะแสดงผลข้อมูลลูกค้าตามเปอร์เซนต์การใช้งานในแต่ละกลุ่มอัตโนมัติ โดยสามารถ Export ข้อมูลสมาชิกในแต่ละกลุ่มเพื่อนำไปวิเคราะห์และจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติมต่อไปได้ 

 

 

RFM Analysis มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ ?

ทำไมเราถึงต้องควรให้ RFM Analysis เข้ามาช่วยในการแบ่งกลุ่มลูกค้าของธุรกิจ นั่นก็เพราะว่า ลูกค้าทุกคนไม่ได้มีความต้องการที่เหมือนกัน และไม่ใช่ทุกข้อความ ทุกการสื่อสาร หรือโปรโมชั่นแบบเดียวกันจะดึงดูดความสนใจจากลูกค้าทุกคนได้ ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจสามารถทำได้คือใช้เทคนิคและหลักการของ RFM Analysis มาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อให้เราจึงสามารถระบุพฤติกรรม ความชอบ ความสนใจของลูกค้าออกเป็นกลุ่ม ๆ ให้ชัดเจนว่า ซึ่งจะทให้เราได้ทราบว่า กลุ่มไหนมีความแตกต่างกันอย่างไร มีพฤติกรรมอย่างไร หรือสนใจเรื่องอะไร แล้วจึงนำเสนอสินค้าบริการ การสื่อสาร หรือโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ

ซึ่ง RFM Analysis จะช่วยวิเคราะห์และแบ่งกลุ่มลูกค้าในระบบฐานข้อมูล Loyalty Program ของลูกค้าที่ธุรกิจใช้ อย่างเช่น ระบบสะสมแต้ม Pointspot ซึ่งเป็นการทำ Loyalty Program รูปแบบหนึ่ง ที่ระบบสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และมีรายงาน RFM Analysis ที่ประมวลได้แบบอัตโนมัติ เมื่อธุรกิจสามารถแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่มได้อย่างชัดเจน ก็จะช่วยให้ทำการตลาดได้แม่นยำขึ้น อีกทั้งยังรู้ว่าควรใช้วิธีการสื่อสารหรือออกโปรโมชั่นแบบใด ถึงจะตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น จนสามารถเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นได้

 

10 เทคนิค แบ่งกลุ่มลูกค้าด้วย RFM Analysis พิชิตยอดขายได้มากขึ้น

 

Pointspot RFM Analysis

 

สำหรับในระบบ Pointspot จะมีเมนู RFM Analysis ซึ่งถือเป็นรายงานรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าและบริการของธุรกิจเรา เมื่อวิเคราะห์ตามข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าแล้ว ระบบจะแบ่งกลุ่มลูกค้าออกมา 10 กลุ่มด้วยกัน แม้ว่าทั้ง 10 กลุ่มจะเป็นลูกค้าเหมือนกัน แต่ก็มีพฤติกรรมและรายละเอียดการซื้อที่แตกต่างกันออกไป การทำการตลาดก็อาจจะต้องแตกต่างกันด้วยเช่นกัน เรามาดูกันว่า แต่ละกลุ่มหมายถึงอะไร แล้วจะใช้เทคนิคการขายแบบไหนเพื่อพิชิตใจลูกค้า และพิชิตยอดขายได้มากขึ้น

 

1. Champions

 

pointspot-rfm-champion

 

 

มาที่กลุ่มแรก กลุ่ม Champions คือ กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาซื้อสินค้ากับร้านเมื่อไม่นานมานี้ และมีการใช้บริการเป็นประจำ และมีพอยท์ที่ได้รับสูงสุด จากความหมายของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ค่อนข้างเป็นกลุ่มที่ชอบมาซื้อสินค้าเราบ่อย ๆ และเพิ่งซื้อสินค้าของเราไปหมาด ๆ ดังนั้น เราต้องพยายามดึงลูกค้ากลุ่มนี้ให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง และรักษาระดับความถี่ ไม่ให้เขาหายจากร้านเราไปนาน

วิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ คือ ออกโปรโมชั่นในกลุ่มสินค้าที่ลูกค้ากลุ่มนี้ยังไม่เคยซื้อ แต่มีแนวโน้มว่าน่าจะซื้อ ถ้าเราส่งโปรโมชั่นสินค้าเดิม ๆ ในระยะเวลาสั้น ก็อาจทำให้ลูกค้าเบื่อ หรือไม่เห็นความสำคัญว่าทำไมต้องกลับซื้อ ดังนั้น เราควรขยายโปรโมชั่นไปที่กลุ่มสินค้าอื่นบ้าง หรือแจกรางวัล สิทธิพิเศษใหม่ ๆ จากการสะสมแต้ม เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อของซ้ำ ๆ จนกว่าจะสะสมพอยท์ครบจนนำไปแลกของที่สนใจได้

 

2. Loyal Customers

 

pointspot-rfm-loyal-customers

 

สำหรับลูกค้า กลุ่ม Loyal Customers คือ กลุ่มลูกค้าที่มีการใช้บริการบ่อยครั้ง และมีพอยท์ที่ได้รับสูงสุด สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีความรักแบรนด์ค่อนข้างสูง เห็นได้จากความถี่ของการเข้ามาใช้บริการ และจากความถี่นี่เองส่งผลให้เขามีจำนวนพอยท์สะสมที่เยอะ

หากอยากเพิ่มยอดขายจากลูกค้ากลุ่มนี้ ควรนำเสนอความแปลกใหม่ เพราะการเข้ามาเห็นสินค้าเดิม ๆ ลูกค้าอาจจะเบื่อ และไม่อยากกลับมาซื้ออีก เช่น ส่งข้อความ หรืออีเมล อัปเดตสินค้ามาใหม่ หรือโปรโมชั่นมาใหม่ ที่เป็นสินค้าที่มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาซื้อบ่อย หรืออีกวิธีคือ กระตุ้นความถี่ให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าบ่อยขึ้นด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ ในระบบสะสมแต้ม เช่น การมอบส่วนลดราคา 10% เมื่อกลับมาซื้อสินค้าอีกในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ควรเน้นให้เขามีปฏิสัมพันธ์ หรือการมีส่วนร่วมกับแบรนด์เราอยากต่อเนื่อง และเพิ่มความสัมพันธ์ให้ลูกค้ารักแบรนด์คุณมากขึ้น ด้วยการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดพิเศษ ของขวัญ หรือ Voucher เฉพาะระดับขั้นสมาชิกนั้น ๆ ก็จะช่วยเพิ่ม Customer Loyalty ได้ง่ายยิ่งขึ้น

 


3. Potential Loyalist

 

pointspot-rfm-potential-loyalist

 

ลูกค้ากลุ่ม Potential Loyalist คือ กลุ่มที่มีการใช้บริการหรือซื้อสินค้ากับแบรนด์ของเราไปเมื่อไม่นานมานี้ และมีจำนวนครั้งที่ใช้บริการ รวมถึงพอยท์ที่ได้รับในระดับปานกลาง หากพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้าหลักขาประจำของเราได้ เพราะจากข้อมูลแล้วเป็นกลุ่มที่ซื้อสินค้าค่อนข้างเยอะ และยังเก็บพอยท์สะสมของทางร้านไว้ด้วย

หากอยากเพิ่มยอดขายกับลูกค้ากลุ่มนี้ ควรเน้นให้เขามาซื้อสินค้าของเราให้บ่อยมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคการทำโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด หรือการใช้พอยท์สะสม มาเป็นตัวเสริม Benefit เช่น ส่งบรอดแคสต์ข้อความ ซึ่งเป็นการทำ SMS Marketing อย่างหนึ่งเพื่อบอกโปรโมชั่นที่กำหนดเวลาหมดอายุ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือโปรโมชั่นแลกพ้อยท์ นำพอยท์ที่มีมาซื้อสิ้นค้าจะได้รับทั้งส่วนลด และพอยท์สะสม หรือลูกค้าเราอาจจะไม่ได้สนใจสินค้าโปรโมชั่นในขณะนั้น ก็สามารถแจกของรางวัลอื่นจากการแลกพอยท์ เพื่อสร้างการรับรู้ว่า พอยท์จากทางร้ายสามารถแลกของได้หลายอย่าง ดึงดูดให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าเพื่อสะสมแต้มไปแลกของที่เขาต้องการต่อไป

 

 

4. New Customers

 

pointspot-rfm-new-customers

 

สำหรับลูกค้า กลุ่ม New Customer หรือ กลุ่มลูกค้าใหม่ ที่เพิ่งเริ่มใช้บริการ หรือซื้อสินค้าจากร้านเมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่เราต้องเน้นให้เขากลับมาซื้อของเราในครั้งถัดไปให้ได้ เพื่อขยับจากสถานะลูกค้าใหม่ไปเป็นลูกค้าประจำ ด้วยเทคนิคกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ เช่น Up-Sell หรือ Cross-sell

การ Up-sell คือ การนำเสนอให้ลูกค้าเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการที่ดีกว่าเดิม ส่วน Cross-sell คือ การจับคู่สินค้า ระหว่างสินค้าที่ลูกค้าชื่นชอบกับสินค้าที่เราอยากจะผลักดันขายออกไป วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการขายสินค้าได้มากขึ้น และยังเรียกลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาซื้อซ้ำได้ไม่ยาก หากอยากเพิ่มความน่าสนใจ ไม่อยากให้เขามองโปรโมชั่นแบบผ่าน ๆ ก็เพิ่มเรื่องระยะเวลา หรือพอยท์พิเศษที่เขาจะได้รับหากมาใช้โปรโมชั่นที่เราเสนอไปด้วยก็ได้เช่นกัน

 

5. Promising

 

pointspot-rfm-promising

 


กลุ่ม Promising หรือ กลุ่มลูกค้าที่มีการใช้บริการหรือซื้อสินค้ากับเราไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยังมีการใช้บริการไม่บ่อย และมีพอยท์ที่ได้รับไม่มากนัก สำหรับกลุ่มนี้ต้องกระตุ้นให้เขากลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้งให้ได้ก่อน และขั้นต่อไปคือ ทำให้เขากลับซื้อสินค้าเราถี่มากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มนี้ และพาเขาเลื่อนสถานะไปสู่ลูกค้าประจำให้ได้

ดังนั้น เทคนิคที่ควรใช้กับกลุ่มนี้ต้องมีความน่าดึงดูด แสดงถึงความคุ้มค่าจริง ๆ ถ้าไม่กลับมาซื้อเขาจะพลาดสิ่งสำคัญไป เช่น การออกโปรโมชั่นเพื่อลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ที่หาไม่ได้ที่ไหนแล้ว เช่น โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รับฟรีสินค้าพรีเมี่ยมจากร้าน พร้อมรับส่วนลดครั้งต่อไปถึง 30% หรือโปรโมชั่นหลายชั้น เช่น ซื้อครบ 1,000 บาท ได้ส่วนลดอีก 20% พร้อมรับพอยท์ส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป

 

 

6. Need Attention

 

pointspot-rfm-need-attention

 

กลุ่ม Need Attention คือ กลุ่มที่มีการใช้บริการมาสักระยะหนึ่ง เริ่มมีความห่างหายในการซื้อสิ้นค้า ถ้ามองถึงเรื่องพอยท์ ก็จะได้รับพอยท์ไปแล้วในระดับปานกลาง สำหรับกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ธุรกิจต้องโฟกัสเป็นพิเศษ เพราะเริ่มมีสัญญาณว่า เขาจะไม่กลับมาซื้อซ้ำ และอาจห่างหายไปในที่สุด 

ดังนั้น เราควรกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากขึ้น ในระดับที่ว่า ถ้าไม่รีบมาซื้อตอนนี้อาจจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดไป และสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ต้องนำเสนอสินค้าและบริการที่ลูกค้าสนใจ โดยวิเคราะห์ได้จากข้อมูลสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อไป แล้วนำคัดเลือกกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงกัน ก็จะสร้างความแปลกใหม่ที่ยังอยู่บนความสนใจของลูกค้า

 

 

7. About to Sleep

 

pointspot-rfm-about-to-sleep

 

สำหรับลูกค้า กลุ่ม About to sleep หมายถึง กลุ่มลูกค้าที่มีพอยท์ที่ได้รับน้อย มีการใช้บริการหรือซื้อสินค้าไม่บ่อย และเริ่มไม่กลับมาใช้บริการสักระยะหนึ่ง เป็นอีกกลุ่มที่ต้องคอยเฝ้าระวัง และต้องคอยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ลูกค้ากลุ่มนี้ก็ยังพอเคยมาซื้อสินค้าเราบ้าง และมีการรับพอยท์ไป แสดงว่า เขาก็ยังมีความพึงพอใจในสินค้าระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ค่อยเห็นการอัปเดตสินค้า หรือยังไม่มีสินค้าอะไรที่น่าสนใจในช่วงนี้

ดังนั้น เพื่อดึงให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาอีกครั้ง เราสามารถส่ง SMS เพื่อแจกคูปองส่วนลด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง ถ้าให้พิเศษยิ่งขึ้น ให้ปรับข้อความที่ส่งให้ลูกค้าในลักษณะที่ว่า เขาคือคนลูกค้าพิเศษ และกำหนดช่วงระยะเวลาในการใช้งาน เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของเราอย่างรวดเร็ว

 

 

8. Can’t Lose Them

 

pointspot-rfm-can’t-lose-them

 

ลูกค้า กลุ่ม Can't Lost Them เป็นอีกกลุ่มที่มีความสำคัญ และธุรกิจก็ไม่ควรเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไป เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีพอยท์สูงสุด แถมยังเข้ามาซื้อสินค้า และใช้บริการเป็นประจำ แต่ไม่กลับมาใช้บริการในระยะหนึ่งแล้ว สาเหตุอาจจะเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไม่สนใจสินค้าในขณะนี้ หรือสวิตช์แบรนด์ ไปใช้สินค้าของแบรนด์อื่นแล้ว

ดังนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าอีกครั้ง ควรอัปเดตสินค้าใหม่ ที่ลูกค้ายังไม่เคยลองใช้ รวมถึงโปรโมชั่นที่ยากปฏิเสธผ่านช่องทางโปรโมทต่าง ๆ  อย่างเช่น โปรโมชั่นที่แพ็กคู่ทั้งส่วนลดและของแถม และถ้าคุณเก็บข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้ไว้อยู่ในระบบสะสมแต้มอยู่แล้ว ก็สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาวางแผนทำ Retargeting ยิงโฆษณา Facebook หรือ Google กลับไปหาลูกค้ากลุ่มนี้ ให้เขาเห็นสินค้าของเราอีกครั้ง

 

9. At Risk

 

pointspot-rfm-at-risk

 

กลุ่ม At Risk คือ กลุ่มลูกค้าที่มีพอยท์ที่ได้รับ และจำนวนครั้งที่มาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าในระดับปานกลาง แต่ไม่กลับมาใช้บริการสักระยะหนึ่งแล้ว สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้มีโอกาสสูงที่เขาจะห่างหายจากแบรนด์เราไปเลย เพราะแต่เดิมก็มีเปอร์เซ็นต์การซื้อสินค้าที่ไม่ได้สูงมาก และระยะหลังก็ไม่กลับมาซื้อสินค้าไปสักระยะแล้ว

เทคนิคที่จะช่วยดึงลูกค้ากลุ่มนี้กลับมา คือ กระตุ้นการกลับมาซื้อด้วยการอัปเดตสินค้าใหม่ ๆ หรือโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ลดราคา พร้อมนำพอยท์ที่มีมาแลกของรางวัล หรือถ้าเป็นช่วงที่แบรนด์ของสินค้าใหม่พอดี ลองจัดแคมเปญทดลองใช้สินค้าฟรี กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เปิดใจทดลองใช้สินค้าเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นค่ะ

 

 

10. Hibernating

 

pointspot-rfm-hibernating

 

กลุ่มสุดท้าย กลุ่ม Hibernating เป็นกลุ่มที่แบรนด์หรือผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับพอยท์น้อย มีการใช้บริการไม่บ่อย และไม่กลับมาใช้บริการระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นลูกค้าที่มีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำได้ยากมาก การกระตุ้นด้วยโปรโมชั่น หรือเสนอขายอาจจะดูเป็นยัดเยียดการขายมากเกินไป เลยขอแนะนำว่า ลองแคมเปญส่งแบบสอบถามถึงความพึงพอใจที่มีต่อสินค้าเรา แล้วแจกของขวัญเป็นการตอบแทน เพราะเราจะได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า ทำไมลูกค้าถึงซื้อสินค้าเราน้อยครั้ง และไม่กลับมาซื้อซ้ำอีก เพื่อที่เราจะได้นำมาปรับปรุงสินค้าหรือบริการของเราให้ดีขึ้นไป ซึ่งคนที่จะรู้คำตอบที่แน่ชัดว่าเราควรต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติม ก็คือลูกค้าของเรา

 

สรุป

การใช้ CRM เพื่อทำดูข้อมูล Transaction Data มีประโยชน์มาก หากเรามีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ นำไปวิเคราะห์ได้ถูกวิธี และนำ Insights จากข้อมูลไปปรับใช้ทำการตลาดและทำการขายให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละ Segmentation โดย RFM Analysis เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Poinspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ซึ่ง RFM Analysis นี้ เป็นระบบที่นำข้อมูลที่เก็บไว้ใน Poinspot มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า แล้วสรุปผลออกมาให้เห็นว่า ลูกค้าแต่ละคนอยู่ในกลุ่ม Segmentation อะไรบ้าง โดยวิเคราะห์จาก Criteria มาตรฐาน ที่สามารถระบุได้ชัดเจนถึงความผูกพัน หรือ Loyalty ที่มีต่อแบรนด์ รวมถึงแนวโน้มที่ลูกค้ากลุ่มนั้นจะกลับหรือไม่กลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง หากเราเข้าใจได้ชัดเจนว่า ลูกค้าคนไหนอยู่ใน Segmentation ไหน ก็จะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างถูกจุด พร้อมนำเสนอโปรชั่นที่โดนใจกับกลุ่มลูกค้า พร้อมเรียกลูกค้าเก่าให้ยังเป็นลูกค้าประจำของเราได้ต่อไปอย่างยาวนาน และสร้างยอดขายกับกลุ่มลูกค้าคนสำคัญได้อย่างยั่งยืน

หากตอนนี้คุณอยากได้ตัวช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ในมือ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สูงสุดในการทำการตลาดหรือการนำเสนอขาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี ขอแนะนำ Poinspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มดิจิทัลด้วยเบอร์โทร เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่ช่วยจัดการระบบสะสมแต้มอย่างง่ายดายแค่ดำเนินการผ่านเบอร์โทร ช่วยเลือกลูกค้าที่เคยใช้บริการให้กลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง พร้อมเก็บข้อมูลการซื้อและใช้บริการของลูกค้าไว้ใช้ในการวิเคราะห์ แบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อนำไปทำกลยุทธ์การขาย แผนการตลาด ที่แม่นยำ สร้างยอดขายให้เกิดกำไรได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

สมัครใช้งานฟรี! Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร

หากต้องการเครื่องมือ Loyalty Program ออนไลน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้สมัครใช้งาน Pointspot ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้ม คูปองโปรโมชั่นบัตรสมาชิกดิจิทัล Gift Voucher ออนไลน์ และ Loyalty Program   อื่น ๆ คลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อลงทะเบียนใช้งานฟรี!

 

PointSpot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร เพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าประจำ ด้วย Loyalty Program และคูปองโปรโมชั่น ใช้งานง่าย ไม่ต้องพกบัตร ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลในการทำ CRM ช่วยสร้างการซื้อซ้ำ และจดจำแบรนด์